"แพทองธาร" เรียกถกฝ่ายความมั่นคง ปมเมียนมา

วันนี้ (14 ก.พ.2568) เมื่อช่วงเวลา 13.00 น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กระทรวงกลาโหม นายสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมด่วนที่ตึกไทยคู่ฟ้า

อ่านข่าว ตร.ชี้แค่ 1% ชาวต่างชาติถูกลวงเข้าแก๊งคอลเซนเตอร์

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กระทรวงกลาโหม

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เรียกประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งคาดว่าจะเป็นการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา โดยรอบ และติดตามความคืบหน้าการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ตามที่มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงก็มีรายงานว่าจังหวัดเมียวดีขาดแคลนน้ำมันเกือบ 100%

ส่วนบริเวณหน้าสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 มีการจราจรติดขัด เนื่องจากชาวเมียนมา มีความต้องการเข้ามาบริเวณชายแดนแม่สอด เพื่อเติมน้ำมัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานในพื้นที่ได้มีการกำชับให้นายอำเภอแม่สอดไม่จำหน่ายน้ำมันทุกชนิดใส่แกลลอน โดยให้เติมเฉพาะกับรถเท่านั้น

อ่านข่าว สภาล่ม! โชว์ตัวแค่ 175 ไม่ครบองค์ประชุมปมแก้รัฐธรรมนูญ

ผบ.เหล่าทัพร่วมปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เผยภายหลังนายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานความมั่นคงเข้าหารือว่า ทุกเหล่าทัพได้มีการราย งานสถานการณ์ต่อหน้านายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะความคืบหน้าการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ภายหลังที่เปิดปฏิบัติการซีลแนวชายแดน 51 อำเภอ ถือว่าปฏิบัติการที่ดำเนินการในช่วงต้นประสบความสำเร็จ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การกดดันครั้งนี้ทำให้มีการเคลื่อนไหว ปิดสถานบัน เทิงที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ออกจากพื้นที่ ต้องมีการตรวจสอบคนที่ขอความช่วยเหลือ บางส่วนต้องมีการแยกแยะให้ชัดเจน หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะส่งตัวให้กับสถานทูตมารับ ส่วนประเทศไหนมีคนจำนวนมาก ก็จะเช่าเหมาลำเครื่องบินมารับ ยืนยันว่าไทยจะไม่ยินยอมให้เป็นศูนย์อพยพ

ทุกเหล่าทัพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานเชื่อมกับฝ่ายการเมือง เพราะบางเรื่องฝ่ายปฏิบัติเมื่อมาถึงระดับที่ตัดสินใจ อาจจะไม่รู้ว่าต้องตัดสินใจอย่างไร

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การพูดคุยวันนี้ตนเองได้ประสานงานโดยตรงก็สามารถตอบแทนฝ่ายการเมืองแทนนายกรัฐมนตรีได้ จะทำให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างบูรณาการ โดยรวมก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอบ คุณทุกฝ่ายที่ตั้งใจทำงาน และขอให้ทุกฝ่าย ทำงานประสานงานกันมากขึ้น 

ยังไม่สามารถพูดได้ว่า 100% แต่ต้องให้เห็นชัดให้ทุกคนรู้สึก เช่น เบอร์โทรศัพท์ลดลง คดีลดลง ต้องว่าไปตามสัดส่วน  ต้องประเมินสถานการณ์ตลอด  

ส่วนแนวคิดสร้างกำแพงแนวชายแดนที่ติดกับปอยเปต มีความเป็นไปได้แค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้ไปหาข้อสรุปถึงขั้นนั้น แต่ต้องมีกระบวนการไปดูเพราะเป็นข้อเสนอของคนในพื้นที่ก็ไม่ปฏิเสธและนิ่งเฉย ต้องดูรายละเอียด

อ่านข่าว 

สมช.อัปเดตปมตัดไฟเมียนมา "ภูมิธรรม” ชี้ไม่ถึงคิวยาแรงกัมพูชา