เหตุ "รษิภา" หรือ "พีม" ขาใหญ่แห่งทุ่งรังสิต ก่อคดีทำร้ายร่างกาย “รุ่นน้อง” โดยสาดน้ำซุปร้อนใส่รุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัย จนเป็นแผลพุพอง นำมาสู่การขยายผลขุดพฤติกรรมรุนแรง เมื่อครั้งอดีต รวมการใช้กลโกงต่าง ๆ หลอกล่อผู้เสียหาย ทำร้ายร่างกาย อัดคลิปประจาน กลายเป็น "คดีซ้อนคดี" หลังผู้เสียหายกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ทยอยนำหลักฐานต่าง ๆ เข้าแจ้งความกับตำรวจ
"รษิภา" หรือ "พีม" ถูกแจ้งข้อกล่าวหาและถูกดำเนินคดี ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ กรรโชกทรัพย์ ขณะเดียวกันยังถูกดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและมีอาจมีพฤติกรรมเกี่ยวพันกับการลักลอบจำหน่าย "พอตเค"ด้วย
พอตเค - บุหรี่ไฟฟ้า "ภัยร้าย" วัยรุ่น
ตั้งแต่ต้นปี 2565 ตำรวจมีการจับกุมผู้ลักลอบขาย "หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค" หรือ "พอตเค" ที่กำลังระบาดหนักในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนได้จำนวนมาก จากข้อมูลพบว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่มักจะใช้ช่องทางออนไลน์ในการจำหน่าย ส่งตามสถานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยว
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTpCbLpeyWrdcVEYou056wcQdxD.jpg)
พอตเค คือ บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบหนึ่ง มีหัวพอตระบบปิด ซึ่งภายบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีส่วนผสมของยาเคตามีน(Ketamine) และเมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) สารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และ 2 เพื่อให้ความมึนเมา น้ำยามีลักษณะสีใสโปร่ง
แม้เป็นยาเสพติดร้ายแรง แต่กลับได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น เพราะเมื่อสูบพอตเคแล้วจะให้ฤทธิ์หลอนประสาทรุนแรง ผู้สูบจะรู้สึกว่าตนเองมีความสุข เคลิบเคลิ้ม เกิดภาพฝัน หากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสมองและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผลจากคดีข้างต้น มีข้อมูลจากคำกล่าวอ้างของพยานบุคคล แต่ตำรวจยังไม่พบหลักฐานที่จะขยายผลถึง "รษิภา" หรือ "พีม" แต่เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าค้นในคอนโดแห่งหนึ่งย่านธนบุรี และพบว่า พอตเค กำลังระบาดหนักอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นจริง
พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ย้อนเหตุการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีกลุ่มวัยรุ่นส่งเสียงดังภายในห้องพัก จึงได้เข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหา 2 คน กำลังผสมสารเสพติด ที่ดัดแปลงจากบุหรี่ไฟฟ้า และที่น่าตกใจคือ ของกลางที่พบ มีส่วนผสมของสารเคมี ยาเสพติด เคตามีน แมทแอมเฟตามีน ไอซ์ คอลลาเจน สีผสมอาหาร มากกว่าสิบชนิด และหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นกลุ่มบุคคลที่หลากหลายทางเพศ (LGBQT+) แต่จะเชื่อมโยงกับพีมหรือไม่ ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่ชัดเจน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTpCbLpeyWrdcU8JOspDDLL3GuA.jpg)
สำหรับแหล่งที่เข้าค้น นับเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ เป็นการผสมขึ้นเอง ไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทราบวิธีการ ตั้งแต่เริ่มหาซื้อสารตั้งต้น กระบวนการผลิต จนถึงการส่งจำหน่ายให้กลุ่มเป้าหมายแบบ เบ็ดเสร็จครบจบที่เดียว
"เขาจะนำสารเสพติดแต่ละชนิดมาผสมหนักเบาขึ้นอยู่ที่การทำ ทำได้โดยง่าย เพราะมีการเขียนสูตรเก็บไว้ และเป็นสูตรที่คิดขึ้นเอง ไม่ได้นำมาจากต่างประเทศ"
พ.ต.อ.ศานติ อธิบายว่า พอตเคกับบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้มีความแตกต่างกัน เพียงแค่ดัดแปลงหัวพอตที่ถอดเปลี่ยนหัวได้ จากที่เป็นน้ำยาบุหรี่ทั่วไป เปลี่ยนเป็นใส่เคตามีน และสารอื่น ๆ เข้าไปแทนที่ แต่งสีใส่กลิ่นในอัตราส่วนที่พอเหมาะตามความต้องการผู้ซื้อ สกัดจากความร้อน กลายเป็นควันสูบพ่นกระจายในอากาศ แนบเนียนจนไม่สามารถพิสูจน์ด้วยตาเปล่าได้
ปัญหาดังกล่าวจึงกลายเป็นอุสรรคต่อการสืบสวนและดำเนินคดีของกลุ่มผู้เสพ ผู้จำหน่ายผลการจับกุมคดีพอตเคจึงไม่มีมากนัก เพราะด้วยปัจจัยด้านอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาดัดแปลงขึ้นใหม่ การสุ่มตรวจหรือการล่อซื้อ หากจะไปไล่ตามจับผู้ที่พกบุหรี่ไฟฟ้ามาตรวจก็คงเป็นเรื่องยาก
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTpCbLpeyWrdcVCaXSa7GU6IzYR.jpg)
ดังนั้นการสืบสวนจะต้องมั่นใจหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่ามีการเสพพอตเค หรือลักลอบจำหน่ายจริง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย เมื่อจับกุมแต่ละคดีได้จะต้องนำผลไปตรวจหาสารเสพติดจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เมื่อได้ผลมาถึงจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหาและเนินคดี ยอมรับว่า ค่อนข้างมีความล่าช้า
ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคืออะไร ระหว่างบุหรี่ไฟฟ้ากับพอตเค ต้องนำไปส่งตรวจทางกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จึงจะสามารถแจ้งข้อหาตามกฎหมายได้
พ.ต.อ.ศานติ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายหลักจะใช้วิธีการสั่งซื้อ ซึ่งพบว่ามี 2 ช่องทาง คือ สั่งซื้อทางออนไลน์ ในกลุ่มลับเฉพาะและสั่งซื้อตามแหล่งสถานบันเทิง และอีกกลุ่มคือผู้ที่ทำอาชีพเอนเตอร์เทนลูกค้า หรือลูกค้าต้องการสูบ เพื่อเพิ่มความเมาในงานปาร์ตี้
การจำหน่ายพอตเค ราคาต้นทุนอยู่ที่ 1,300 – 1,800 บาท ไปถึงปลายทางราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่ที่ความเข้มข้นของสารที่ผสม ผู้ต้องหาจะใช้วิธีการขนส่งผ่านไรเดอร์มารับและไปส่งให้ลูกค้า ตรงนี้เป็นอุปสรรคอีกขั้นในการตรวจจับ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTpCbLpeyWrdcVFqtporzDiajPC.jpg)
ผู้กำกับ กก.ดส. ระบุว่า การตัดวงจรเครือข่ายนี้ไม่ใช่เพิ่งเริ่มขึ้นแค่วันสองวัน รัฐบาลเคยประกาศให้กวาดล้างอย่างเด็ดขาด รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับและสั่งการให้ไล่ล่าเครือข่ายผู้จำหน่ายและผู้เสพพอตเค ตามสถานบันเทิงมาระยะหนึ่งแล้ว
ผลในการตรวจจับไม่ได้มากเท่าที่ควร เนื่องจากข้อจำกัดด้านกายภาพในการเข้าพื้นที่ และข้อกฎหมายบางข้อที่คลุมเครือ เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตมักจะลักลอบผลิตในที่พักอาศัย ตามคอนคอนโด หากจะขอหมายค้นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน
ผู้ที่จำหน่ายจะเข้าข่ายกระทำความผิด
- มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1
- มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
- ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่) สำหรับผู้ซื้อหรือครอบครอง จะเข้าข่ายกระทำความผิด
- มีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำเป็นปรับ
- มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ มีโทษตามประเภทของยาเสพติด ให้โทษประเภท 1 และ 2 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20 , 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.ศานติ ย้ำถึงความกังวลใจในมุมมองของตำรวจ ในฐานะผู้ไล่สืบสวนว่า โอกาสที่กลุ่มเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี จะตกเข้าไปอยู่ในวังวนยาเสพติด จากจุดเริ่มต้นสูบบุหรี่ไฟฟ้า ขยับเข้าสู่การใช้พอตเค พาพกสะดวก ยากต่อการตรวจจับ และอาจเล็ดลอดเข้าไปในสถานศึกษา เมื่อสูบพ่น จึงยากที่จะแยกแยะออกจากกันได้ อีกทั้งยังซื้อง่ายขายคล่อง
หลากหลายพิษภัยยาเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ มีการดัดแปลงอุปกรณ์ ให้มีสีสัน ใช้ง่าย โดยใช้หัวพอตเค แล้ว ล่าสุดยังพบว่า มีการนำน้ำสกัดจากรากไม้ที่มาจากแอฟริกาใต้ ที่มีสาร DMT (N,N-Dimethyltryptamine) มาบรรจุในพอต โดยผู้พบเห็นจะไม่ทราบว่าผู้เสพกำลังใช้สารเสพติดชนิดนี้อยู่ โดยสาร DMT มีฤทธิ์ทำให้เคลิบเคลิ้มจากการหลอนประสาท
การไล่กวาดล้างและจับกุมในทางปฏิบัติดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะเดินช้ากว่าผู้ต้อง หาหนึ่งก้าวเสมอ เพราะการที่เกิดขึ้นของเครือข่ายถูกคิดค้น สร้างเป็นโปรดักส์ ซุกซ่อนอยู่ในรูปหลากหลายรูปแบบ แยบยล และน่ากลัว ทำอย่างไรจึงจะสกัดกั้นตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติด ไม่ให้เข้าไปทำลายอนาคตเด็ก เยาวชน ในรั้วสถานศึกษาได้
รายงานโดย : ชาติชาย ถุงเงิน ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว ตร.เตือนระวังมิจฉาชีพส่งลิงก์ Netflix ปลอม หลอกดูดเงิน
รัฐธรรมนูญ 2560 แก้ได้ หรือ ห้ามแก้?
วาเลนไทน์ ต้องรู้ทัน "ยาเสียสาว" เปิด 5 วิธีเอาตัวรอด-ป้องกัน