จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว สกัดจับผู้ก่อเหตุที่ลักรถจักรยานยนต์ แต่ถูกยิงสวนมาทำให้ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 1 คน หลบหนีได้ 1 คน หลังเกิดเหตุ
ล่าสุด วันนี้ (12 ก.พ.2568) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ญาติของนายศุภัช ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตข้องใจการทำงานตำรวจ โดยมองว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุอีกทั้งผู้เสียชีวิตไม่ได้เป็นคนยิงหรือถือปืน
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และในภาพวงจรปิดเห็นพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุทั้งหมด โดยจะเห็นภาพว่า มีกระสุนของฝั่งผู้ก่อเหตุยิงใส่ตำรวจก่อน ทำให้ตำรวจต้องยิงป้องกันตัวออกไป
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวได้สั่งการให้สอบสำนวนทุกมิติ ทั้งการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิต และได้แจ้งข้อหาตำรวจที่ยิงไปแล้ว ซึ่งตำรวจที่ยิงไปนั้นเพราะผู้ต้องหาต่อสู้และยิงมาก่อน
ส่วนรายละเอียดทางคดี ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบปืนของผู้ต้องหา เบื้องต้นอยู่ระหว่างการติดตามตัว ผู้ขับขี่อีก 1 คน ซึ่งเชื่อว่า ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนขบวนการลักรถจักรยานยนต์ เชื่อว่า เป็นขบวนการใหญ่ พบมั่วสุมอยู่ริมคลองสายไหมและก่อเหตุในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 หรือ บกน.2
ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ยืนยันเช่นกันว่า ในกล้องวงจรปิดวินาทีที่ 12.07.13 น.มีกระสุนปืนเฉียดศีรษะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงสวนเพื่อป้องกันตัว รวมถึงพฤติกรรมผู้ก่อเหตุเข้าข่ายการชิงตัวผู้ต้องหา เพราะมีการหันปลายกระบอกปืนกวาดมาที่ตำรวจ พร้อมพูดจาข่มขู่และยิงต่อสู้
ขณะเดียวกัน ผบก.สส.บช.น.ยังฝากถึงผู้ต้องหาหรือผู้ที่ช่วยพาตัวผู้ต้องหาหลบหนี ให้พาตัวผู้ก่อเหตุมามอบตัวและหาก ตำรวจติดตามตัวเจอและพบผู้ก่อเหตุยังมีพฤติการณ์ยิงต่อสู้ ก็อาจจะต้องใช้ยุทธวิธีเดียวกันกับที่เคยปฏิบัติมาซึ่งกรณีนี้เป็นครั้งแรกที่ตัวเอง เจอขบวนการลักรถจักรยานยนต์ที่ใช้อาวุธปืนและยิงปืนต่อสู้ทำร้ายตำรวจ
อ่านข่าว : วิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์
พฤติการณ์ร้ายแรง ! ศาลไม่ให้ประกันตัว 8 รุ่นพี่แก๊งสาดน้ำร้อน