ท่ามกลางความกังวลจากสงครามการค้าและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ "ทองคำ" ยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความสนใจจาก "นักลงทุน"
ณ วันที่ 11 ก.พ. 2568 ราคาทองคำเปิดตลาดบวกแรงถึง 850 บาท (ครั้งที่ 2) ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 47,450 บาท และรับซื้อบาทละ 47,350 บาทขณะที่ ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 47,950 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 46,495.72 บาท
ราคาทองคำตลาดโลก อยู่ที่ 2,942 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ ภาพรวมราคาทองปี 2568 บวก 4,050 บาท เฉพาะเดือน ก.พ. ทองคำปรับขึ้น 3,000 บาท ส่งผลให้นักลงทุนหน้าใหม่เริ่มเข้ามาเทรดทองกันมากขึ้น
อ่านข่าว ส่องสถิติราคาทองคำย้อนหลัง 10 ปี ลุ้นปี 2568 ไปสุดที่เท่าไหร่?
เสียงจากนักลงทุนหน้าใหม่ ทองคำพุ่ง 850 บาท
"วันนี้ได้กำไร 1,065 บาท สูงสุดในรอบ 5 เดือน
นักลงทุนมือใหม่คนหนึ่งเผยความตื่นเต้นหลังจากเข้ามาเทรดทอง ซึ่งแต่เดิมทำกำไรได้เพียงหลักสิบถึงหลักร้อยบาทต่อครั้ง และบอกด้วยว่า เห็นเพื่อนเล่น เลยกระโจนเข้ามาเทรดทองแบบไม่มีข้อมูล พอเห็นราคาขึ้นก็ใส่เงินเพิ่มอีกครึ่งแสน แต่พอราคาลงใจไม่ดี กัดฟันรอ จนเริ่มศึกษาและตั้งกลุ่มพูดคุยกับเพื่อน เพื่อวางแผนการซื้อขายทองอย่างมีหลักการมากขึ้น
อีกด้านหนึ่ง นักลงทุนหญิงรายหนึ่งบอกว่า เธอติดลบ 5,000 บาท หลังลงทุนทองแบบไม่มีประสบการณ์ เพราะตัดสินใจขายแบบขาดทุนหลายครั้ง ครั้งละ 500-1,000 บาท กระทั่งเริ่มศึกษาและฟังวิเคราะห์ราคาทองมากขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจเข้าซื้อในแต่ละครั้ง แต่ล่าสุดก็ยังคงเล่นอยู่ โดยเข้าซื้อทองคำครั้งละ 2 บาททองคำ หวังว่าจะคืนทุน และทำกำไรภายใน 4 เดือนนี้
นักลงทุนอีกคน กล่าวว่า การทดลองลงทุนทองคำ ทำให้ต้องติดตามข่าวสารบ้านเมืองและรอบโลกมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจ พอเริ่มจับทางได้ก็พอคาดคะแนระยะสั้น ๆ สร้างกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แต่ก็ต้องทำใจไว้เวลาเห็นกราฟดิ่งลง เข้าใจทำว่า การลงทุนมีความเสี่ยง เข้าใจคำว่า เม่าเข้ากองไฟ ติดดอย มูน สารพัดศัพท์การเทรดทองคำ พร้อมทั้ง ฝากเตือนคนที่คิดจะลงทุน ให้มีสติมากกว่าสตางค์
เทรดทอง คืออะไร แตกต่างจากลงทุนทองธรรมดา อย่างไร
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า "เทรดทอง" แต่บางคนอาจยังไม่เข้าใจความหมายและวิธีการ อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น "เทรดทอง" คือการลงทุนซื้อขายทองคำผ่านระบบออนไลน์ โดยอาศัยการสังเกตราคาทองในขณะนั้นเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนซื้อทองคำแท่งแบบดั้งเดิมที่ต้องถือทองจริงไว้กับตัว
นอกจากนี้ การเทรดทองยังมีความถี่ในการซื้อขายที่สูงกว่า สามารถเกิดขึ้นได้ในระดับนาที ชั่วโมง หรือวันต่อวัน เพื่อให้ได้รับกำไรสูงสุด ทั้งขั้นตอนการซื้อขายทองทั้งหมดจะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือ สมาร์ทโฟน โดยที่ผู้ลงทุนเพียงแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถเริ่มลงทุนได้ทันที
ทำไมนักลงทุน จึงสนใจลงทุน "ทองคำ"
นักลงทุนหลายคนหันมาสนใจลงทุนใน "ทองคำ" ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อมีเงินในมือ การมีสินทรัพย์ที่มั่นคงและคุ้มค่าถือเป็นเรื่องสำคัญให้กับชีวิต ซึ่งทองคำถือเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกในปัจจุบัน นั้นเพราะให้ผลตอบแทนจากความผันผวนของ "ราคา" ที่สามารถทำกำไรระยะสั้นได้สูง นักลงทุนหลายคนจึงวางแผนจัดสรรเงินบางส่วนจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นมาลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามอย่าลืมไปว่า ทุกการลงทุนย้อมมีความเสี่ยง ฉะนั้นต้องศึกษา และอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ
เทคนิควางแผน ช่วยเพิ่มโอกาสผลตอบแทน
"ทองลงให้ซื้อ ทองขึ้นให้ขาย" นักเทรดหลายคนยึดหลักคิดนี้ แต่มันก็อาจจะมีบางวันที่ไม่ใช่วันของเรา การตัดสินใจอาจเกิดความผิดพลาดได้ ฉะนั้น ในการตัดสินใจลงทุนในแต่ละครั้ง ควรที่จะวางแผนให้รอบคอบ ศึกษาข้อมูลตลาด ฟังกูรูวิเคราะห์ เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างกำไร ให้ไม่มากก็น้อย
ในเรื่องนี้ มีข้อแนะนำจาก "กรุงไทย" ที่น่าสนใจ ยกมาให้นักลงทุนได้วางแผนเบื้องต้น เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในการลงทุนทอง มีอะไรบ้างมาติดตามกัน
1.ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน "ทองคำ"
การลงทุนทองคำไม่แตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลขั้นพื้นฐานให้เข้าใจเพื่อจะได้วางแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง
2.กำหนดระยะเวลาการลงทุนให้ชัดเจน
หลังศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการระบุเป้าหมายและช่วงเวลาที่ต้องการลงทุนอย่างชัดเจน ต้องรู้ว่าตัวเองต้องการลงทุนทองในระยะสั้น หรือระยะยาว สำหรับ นักลงทุนระยะสั้น ควรระมัดระวังเรื่องความผันผวนของราคาทองคำที่อาจปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้มีแรงเทขายเพื่อทำกำไร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากจับจังหวะลงทุนผิดพลาด หรือราคาทองคำไม่ได้ปรับขึ้นไปตามที่คาดไว้ นักลงทุนที่มีเป้าหมายเพียงระยะสั้นหรือเก็งกำไรอาจถูกบังคับให้ถือทองคำต่อไป กลายเป็นการลงทุนระยะยาวโดยไม่ตั้งใจ
3. เลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสม
นักลงทุนแต่ละคนเหมาะกับรูปแบบการลงทุนทองคำที่แตกต่างกัน แต่หลายครั้งการเลือกวิธีการลงทุนที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของตนเอง อาจส่งผลให้ไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง หรืออาจถึงขั้นขาดทุน วิธีการลงทุนในทองคำมีให้เลือกหลากหลาย เช่น การลงทุนในทองคำแท่ง, กองทุนรวมทองคำ, กองทุน ETF ทองคำ, สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) และการเทรดทองคำออนไลน์ การเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบและเลือกวิธีที่สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนของ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
4. จัดกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับระยะเวลาลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนทองคำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น และระยะยาว มีความแตกต่างกัน
ลงทุนทองระยะสั้น - นักลงทุนทองระยะสั้นมักเน้นการเก็งกำไร ซึ่งควรมีการกำหนดจุดซื้อและจุดขายทองคำที่ชัดเจน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด เช่น หากราคาทองคำปรับลดลงมาสู่ระดับต่ำกว่าต้นทุนมายังระดับราคาที่กำหนดไว้เพื่อขายขาดทุน นักเก็งกำไรที่มีวินัยก็จะขายทองคำที่ราคาดังกล่าว เพื่อให้มีเงินลงทุนในการเก็งกำไรในครั้งต่อไป ดังนั้นควรศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อช่วยให้ทราบจุดซื้อและจุดขายที่เหมาะสม
ลงทุนทองระยะยาว - นักลงทุนทองระยะยาวสามารถลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ซึ่งเป็นการซื้อทองคำแบบสม่ำเสมอทุกเดือนด้วยจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน เป็นการสร้างวินัยในการลงทุนและช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทองคำได้
ทองคำ เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ หากวางแผนและศึกษาตลาดให้ดี ก็สามารถทำกำไรได้โดยไม่เจ็บตัว นักลงทุนหน้าใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่พอเหมาะ ศึกษาตลาด ให้ดี และอย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ
อ่านข่าว : สรุปราคาทองคำ 10 ก.พ. 2568 ปรับขึ้น 800 บาท บวก 12 ครั้ง