วันนี้ (11 ก.พ.2568) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่รัฐสภาจะพิจารณาในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ว่า วิเคราะห์จากประสบการณ์คาดว่า ร่างทั้ง 2 ฉบับ ยากที่จะผ่านความเห็นชอบ
ด้วยเหตุว่า ข้อกังวลว่า จะต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ต้องทำประชามติถามประชาชนเสียก่อนว่า ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการลงคะแนนของสมาชิกรัฐสภา
“เพราะว่า ยังไม่ได้ทำประชามติ ซึ่งจะส่งผลต่อการลงคะแนน การอภิปรายไม่มีปัญหา แต่การลงคะแนนนั้นถ้าลงคะแนนไปแล้ว จะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะมีปัญหาว่า หากมีการลงมติไปจะมีคนร้องหรือไม่ ผมเชื่อว่าจะมีคนร้องแน่ว่าเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยเขาไม่ได้ใช้ของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันกับทุกองค์กรรวมถึงรัฐสภาด้วย” นายนิกรกล่าว
นายนิกรระบุว่า กรณีรัฐสภาจะมีการเสนอญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ แต่ตนสงสัยว่า ผู้ใดจะเป็นคนเสนอ เพราะเชื่อว่าวุฒิสภาก็จะเป็นคนเสนอญัตติให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหากวุฒิสภาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การไม่ร่วมโหวตก็ถือว่าจบ เพราะการไม่ลงคะแนนให้ก็ถือเป็นปัญหาแล้ว หรือหากพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติ ถามหรือไม่ทั้งที่เป็นเจ้าของร่างเอง
“ส่วนคนอื่นที่จะต้องได้เสียง 40 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (2) เพื่อให้ศาลทำหน้าที่วินิจฉัย พรรคอื่นจะยื่นกันทำไม เลยมีประเด็นว่าเหมือนจะมีคนยื่น แต่ว่าเป็นใคร ยื่นด้วยเหตุผลใด หากไม่มีคนยื่นมีการพิจารณาต่อเนื่อง พอมีการโหวต คนที่จะร้องมีแน่ เพราะเป็นประเด็นมาก ปัญหาคือถ้าโหวตไปแล้ว เท่ากับตีความว่าความผิดสำเร็จ จะมีปัญหาถูกร้องจริยธรรมได้เลยเหมือนกัน เพราะตรงนั้นก็สุ่มเสี่ยง เรียกว่าเดินหน้าลุยไฟไปก็ต้องดู” นายนิกรกล่าว
นายนิกรกล่าวว่า สำหรับเนื้อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชน โดยเฉพาะมาตรา 256 เชื่อว่า เสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ลงคะแนนให้ เพราะว่าไปแก้นัยสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งหากจะแก้ดังกล่าว ต้องทำประชามติด้วย เท่ากับว่า เป็นการให้ความสำคัญของ 2 หมวดนี้น้อยลง ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลได้คุยกันแล้วว่า อย่าไปแตะหมวด 1 และหมวด 2 ระบุว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ลงคะแนนให้แน่ แต่พรรคอื่นไม่รู้จะลงให้หรือเปล่า ยังไม่รวมความเห็นของวุฒิสภา
โดยเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีเนื้อหาถอดอำนาจวุฒิสภา ที่ต้องให้ความเห็นชอบในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดเสียง 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาเท่าที่มีอยู่ เมื่อไปตัดอำนาจดังกล่าวนั้น แล้วไปกำหนดว่า ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เช่นเดียวกับการพิจารณากฎหมายทั่วไป
ไม่เห็นด้วย เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่ จะแก้กันง่าย ๆ ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่า แก้ไม่ได้เลย ร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนั้น มีความยากกับยากมาก ที่จะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาไปได้
ขณะเดียวกันหากผ่านการประชามติ ก็จะต้องพิจารณาว่า จะใช้วิธีดำเนินการตามกฎหมายฉบับใดเนื่องจากกฎหมายที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมและยังติดล็อค 180 วัน อยู่ต้องรอถึงช่วงเดือนกรกฎาคม หากรับหลักการก่อน และต้องทำประชามติตามกฎหมายเดิม ด้วยหลักเกณฑ์ประชามติ 2 ชั้น กังวลว่า จะทำให้การให้ความเห็นชอบประชามตินั้นจะผ่านได้หรือไม่
อ่านข่าว : ไขปริศนาทำไมเครื่องบินต้อง "ทิ้งน้ำมัน" ก่อนลงจอดฉุกเฉิน?