วันที่ (10 ก.พ.2568) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก 14 ก.พ.นี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมให้วัยรุ่นและเยาวชนตระหนักถึงการมีเพศสัมพันธ์ อย่างปลอดภัย และให้ความสำคัญในการเข้าถึงบริการสุขภาพทางเพศที่เหมาะสม รวมถึงการดูแลรักษา HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์วัยรุ่นเพิ่ม
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่รุนแรงในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนอายุ 15–24 ปีที่มีแนวโน้มการเกิดโรคสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า
โรคซิฟิลิส มีอัตราป่วยเพิ่มจาก 27.9 ต่อประชากรแสนคนในปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 91.2 ต่อประชากรแสนคนในปี 2566 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าโรคหนองใน ยังคงมีอัตราป่วยสูงที่ 86.7 ต่อประชากรแสนคนในปี 2566
นอกจากนี้ ข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานครปี 2567 พบผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 10,879 คน หรืออัตราป่วยเพิ่มจาก 47.35 เป็น 96.87 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งสูงกว่าระดับประเทศที่ 57.12 ต่อประชากรแสนคน
โดยโรคที่พบมากที่สุดคือซิฟิลิส 3,677 คน คิดเป็น 50.999 ต่อประชากรแสนคน ตามมาด้วยโรคหนองใน หูดหงอนไก่ หนองในเทียม และเริม
ขณะเดียวกันการติดเชื้อเอชไอวีในปี 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,095 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มเยาวชนอายุ 15–24 ปี และมีผู้เสียชีวิต 1,744 คน
อ่านข่าว แอลกอฮอล์พุ่ง ชายขับกระบะชนรถสองแถว นร.เจ็บ 20 คน
เปิดแคมเปญ SAFE SEX-วัยรุ่นรับถุงยางฟรี
สำหรับปีนี้ กรมควบคุมโรค พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นและเยาวชนรักอย่างปลอดภัย มีทางเลือกที่ออกแบบได้ ด้วยบริการที่เป็นมิตร ภายใต้แนวคิด “รัก” เลือกได้ : Youth Choices for SAFE SEX” ซึ่งกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ประกอบด้วย
Protect me Protect you ป้องกันฉัน ปกป้องเธอ ประชาชนทุกเพศ ทุกวัยสามารถเข้าถึงอุปกรณ์สำหรับป้องกันเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยแจกถุงยางอนามัยฟรี ผ่านหน่วยบริการสุขภาพของรัฐและภาคประชาสังคมทั่วประเทศ และแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในเมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค หมวดถุงยางอนามัย และเลือกหน่วยบริการใกล้บ้าน ซึ่งมีให้เลือกทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิก ร้านขายยา
จากนั้นกดจองสิทธิ และไปรับถุงยางอนามัยตามวันและเวลาที่จองสิทธิได้เลย ให้บริการยา PrEP/PEP ฟรีทุกสิทธิ ป้องกันก่อน-หลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ที่โรงพยาบาลของรัฐ และหน่วยบริการสุขภาพ เช็กหน่วยรับบริการ PrEP และ PEP ได้ที่ http://buddystation.ddc.moph.go.th/search_store/
ให้คำปรึกษา เหมือนมีบัดดี้คู่ใจ อาทิ บริการให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมการตรวจคัดกรองเอชไอวี ด้วยเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา และสามารถเข้าถึงข้อมูลชุดความรู้และประเมินความเสี่ยงเรื่องเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผ่านทาง LINEID @549vhjtt
บริการให้คำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม การคุมกำเนิด จากสำนักอนามัย การเจริญพันธุ์ กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลด้านสิทธิต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับวัยรุ่นและเยาวชน สามารถตรวจสอบสิทธิในการเข้ารับบริการด้านการคุมกำเนิด ค้นหาสถานบริการที่ให้บริการคุมกำเนิด มีระบบบันทึกประจำเดือนช่วยเช็กการมาของรอบเดือน และยังมีบริการสายด่วน 1663 และ Chat Bot ตอบคำถาม ผ่านทาง LINEID ได้ที่ @teen_club
ในกรณีวางแผนการตั้งครรภ์ แนะนำให้ฝากครรภ์โดยเร็วเพื่อรับบริการตรวจคัดกรองเอชไอวี ซิฟิลิส และไวรัส ตับอักเสบ บี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทราบสถานะการติดเชื้อของแม่ หากแม่ติดเชื้อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสี่ยงของลูกที่จะได้รับเชื้อจากแม่ ป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่ไปสู่ลูก
อ่านข่าว เลื่อนฝากขัง เป็นพรุ่งนี้ คดี นศ.ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง
บริการตรวจเร็วอย่างเป็นมิตร และตรวจง่ายได้ด้วยตัวเอง อาทิ ตรวจเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลภายใต้หลักประกันแห่งชาติทั่วประเทศ หรือตรวจด้วยตนเอง โดยขอรับชุดตรวจหาการติดเชื้อด้วยตนเอง (HIV self-test) ฟรีตรวจสอบหน่วยรับบริการที่เข้าร่วม โครงการได้ที่ https://hivsst.ddc.moph.go.th/
บริการตรวจคัดกรองเอชไอวีและซิฟิลิสด้วยชุดตรวจแบบทราบผลเร็ว (Rapid test) ตรวจฟรี สำหรับเยาวชน อายุ 15-24 ปี ไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครอง (สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี) ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา พิษณุโลก ปทุมธานี มหาสารคาม นครราชสีมา อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา สามารถสอบรายละเอียดโครงการได้ที่ 0-2590-3217
รักษาได้ เข้าถึงทุกสิทธิ เอชไอวี รักษาฟรีทุกสิทธิ ด้วยยาต้านเอชไอวีแบบรวมเม็ด (ARV) ในวันเดียวกันที่ทราบผลการติดเชื้อเอชไอวี หรือโดยเร็วที่สุด ที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา ให้บริการที่เป็นมิตร สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์วัยรุ่นและเยาวชน
ระวังมนต์รักออนไลน์ “เทศกาลวันวาเลนไทน์"
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเดือนแห่งความรักและช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ รัฐบาลห่วงใยประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้รัก และหลอกลวงให้สูญเสียเงิน ผ่านสื่อออนไลน์ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมทั้งจากข้อความผ่าน SMS เป็นต้น
โดยเฉพาะกลโกงของสื่อรักผ่านออนไลน์ หรือ Romance Scam ซึ่งเป็นการหลอกให้รัก เพื่อหวังแสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อใจของเหยื่อ มีดังนี้
- หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid scam) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ปลอมด้วยการโอนเงินหรือลงทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล
- หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมท (Remote access scam) ควบคุมสมาร์ตโฟนและทำการดูดเงินในบัญชี
- หลอกให้รัก ให้ถ่ายรูปลับส่วนตัว แล้วแบล็กเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่นๆ
- มิจฉาชีพที่เป็นชาวต่างชาติจะทำทีมาจีบและให้ความหวังว่าอยากจะมาแต่งงานที่เมืองไทย และส่งทรัพย์สินให้ แต่ต้องชำระเงินค่าภาษีก่อน และขอให้ท่านช่วยชำระภาษีให้ก่อน
- มิจฉาชีพแสดงตัวว่าได้รับมรดกเป็นเงินมหาศาล แต่ต้องชำระภาษีมรดก ขอให้ท่านช่วยชำระภาษี
- ป่วยหนัก แต่ประกันยังเบิกจ่ายไม่ได้
- ส่งของรางวัลราคาแพงมาให้ แต่ติดอยู่ที่ด่านตรวจ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน ขอให้ท่านโอนเงินเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมรางวัลก่อน
- เป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติที่จะมาลงทุน แต่ต้องการให้ร่วมทุนด้วย
อ่านข่าวอื่นๆ