วันนี้ (10 ก.พ.2568) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วยนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประชุมและวางแผนร่วมกัน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันชายแดนปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ เกี่ยวกับมาตรการระงับการให้บริการโทรคมนาคม บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว
- แม่ทัพภาคที่1 ถกผู้ว่ากาญจน์ฯ ปราบ“คอลเซนเตอร์ – ยาเสพติด”แนวชายแดน
- "ภูมิธรรม" ไป "พญาตองซู-ปอยเปต" ดูมาตรการซีลชายแดนสัปดาห์นี้
นายไตรรัตน์ ชี้แจงว่า กสทช.มีมาตรการ 3 อย่าง คือ เสา สาย และ ซิม และเสาที่สูงเกิน 50 - 60 ม.จะมีการนำลงแน่นอน โดยจะมีการกำหนดระยะห่างจากชายแดนเข้ามาว่า จะต้องมีระยะกี่เมตร มีความสูงเท่าไหร่ และกำลังส่งหรือความแรงของสัญญาณซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่นานาชาติกำหนดไว้
ปกติแล้วการส่งสัญญาณอาจจจะกระจายไปในประเทศเพื่อนบ้านได้เล็กน้อย แต่เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีการก่อสร้างชิดแนวชายแดนทำให้มีการดึงสัญญาณไปใช้ หลังจากนี้ต้องมีการกำหนดให้มีการส่งสัญญาณต่ำกว่ามาตรฐาน
สำหรับบริษัทรายใหญ่ที่ได้รับสัมปทานให้ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปประเทศเพื่อนบ้านมีรายใหญ่จำนวน 4 ราย และมีรายเล็กอีก 13 ราย ยืนยันว่า การรื้อเสาสัญญาณลง จะไม่รบกวนการใช้โทรศัพท์ของคนไทยที่อยู่ในราชอาณาจักร เพราะจะมีการนำแผงส่งสัญญาณไปติดตั้งในพื้นที่ชุมชนให้ชาวบ้านได้ใช้
ส่วนเสาสัญญาณในปีที่ผ่านมา ได้หันแผงส่งกลับมาในประเทศ แต่ยังมีเล็ดลอดไปอยู่ จากช่วงแรกการใช้สัญญาณลดลง แต่ช่วงหลังพบการใช้สัญญาณที่ถี่ขึ้นนั้น การแก้ปัญหาวันนี้ คือ ต้องให้สัญญาณส่งแค่ภายในประเทศเท่านั้น แต่ไม่สามารถทราบได้ว่า สัญญาณดังกล่าวใช้ด้านไหน แต่ที่ผิดปกติคือมีการใช้ที่เยอะขึ้นเท่านั้น
นายไตรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะไปตรวจสอบและวางข้อกำหนดใหม่ในเรื่องการติดตั้งเสาสัญญาณที่อยู่ใกล้ชิดชายแดนมากเกินไป โดยจะกำหนดความสูงและความแรงการส่งสัญญาณ จุดใดที่ยังหันแผงสัญญาณไปยังเพื่อนบ้าน ทางบริษัทจะต้องมาชี้แจงถึงสาเหตุการหันหากเหตุผลไม่เพียงพอ ทาง กสทช.จะสั่งตัดสัญญาณ ซึ่งคาดว่า จะสั่งตัดทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เขตชายแดน ในระยะ 50 - 100 ม. และหากบริษัทเอกชนไม่ปฏิบัติตามจะต้องร่วมรับผิดชอบ
ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า มาตรการสกัดกั้นของตำรวจได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจค้นบุคคล และยานพาหนะต้องสงสัย และได้ช่วยเหลือผู้เสียหาย และดำเนินกลยุทธ์ทุกเรื่องในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดทุกกฎหมาย โดยเฉพาะการฉ้อโกงออนไลน์ ยังมีมาตรการเด็ดขาดในการตัดสัญญาณสื่อสารที่เป็นพื้นฐานอินเทอร์เน็ตกับผู้เช่าที่ได้รับสัมปทานอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยและมีการปล่อยสัญญาณเป็นเครื่องมือให้มีการประกอบอาชญากรรมฉ้อโกงออนไลน์
พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า สำหรับ IPLC ( บริษัทรายย่อย) ที่เช่าช่วงไป หากทำผิดสัญญาโดยเฉพาะนำไปเป็นเครื่องมือประกอบอาชญากรรม จะมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ที่ส่งสัญญาณไปไกลยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะมีการลดความถี่ลง
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเปิดศูนย์ส่งต่อระดับชาติเพื่อช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย ( Nationnal referral machannism หรือ NRM)
ขณะที่ในช่วงบ่ายตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช.จะมีการตรวจสอบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่และจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม บริเวณสถานีรถไฟด่านพรมแดนคลองลึก, สถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่หลังตลาดเบญจวรรณ และสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่บ้านโคกสะแบง ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ
อ่านข่าว : สะเทือน "ล้างจีนเทา" เมียวดี งานหินกว่า "เล้าก์ก่าย" โมเดล
"ดีอี" ยกระดับจัดการ "บัญชีม้า-สัญญาณเน็ต" ชายแดนไทย-เมียนมา
ตำรวจจับตา "ลานรับฝากรถ" โยงลักลอบพาคนข้ามแดน จ.สระแก้ว