กรณีเหตุการณ์นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต ก่อเหตุสาดน้ำร้อนใส่นักศึกษารุ่นน้อง จนสร้างความไม่พอใจให้กับคนจำนวนมากที่ไปรวมตัวกันหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง เพื่อกดดันให้ผู้ก่อเหตุออกมาขอโทษ
ล่าสุด ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ควบคุมตัวนายรษิภา หรือ พรีม และนายชคัทพล หรือ โอชิ เพื่อนนักศึกษาที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งเป็นการควบคุมตัวตามหมายจับในคดี "ร่วมกันทำร้ายร่างกาย, กรรโชกทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ" โดยวันนี้ (10 ก.พ.) ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดธัญบุรีฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง ให้ข้อมูลว่า นอกจากข้อหาที่แจ้งไปแล้ว ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าจะเข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจรหรือไม่ และขณะนี้มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 3 คดี ส่วนกรณีการทำแผนขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวนและสิทธิของผู้ต้องหา หากมีความจำเป็นก็จะดำเนินการตามขั้นตอน
ขณะที่ พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ขณะเข้าจับกุมตัวนายรษิภาที่ห้องพักพบว่ามีการปิดล็อกห้องและปิดไฟอำพรางว่าไม่มีใครอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจเช็กจนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในห้อง ซึ่งมีการเคาะเรียกอยู่พักใหญ่ เมื่อเปิดเข้าไปพบว่ามีการนำเอาเก้าอี้มาขวางประตูไว้ ไม่มีการต่อสู้ขัดขืน โดยผู้ต้องหามีอาการเครียด ขณะที่ภายในห้องพักยังไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง พาผู้เสียหายที่เคยถูกทำร้ายเข้าแจ้งความกับตำรวจ รวม 3 คน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีสาดน้ำร้อน
เคสทำร้ายนักศึกษารุ่นน้องอีกคนหนึ่ง
เคสทำร้ายนักศึกษารุ่นน้องอีกคนหนึ่ง
นายกัณฐัศว์ ให้ข้อมูลว่า มีผู้เสียหายหลายคนติดต่อขอความช่วยเหลือและส่งข้อมูลพฤติกรรมรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อเหตุมาให้ ซึ่งมีทั้งการข่มขู่เรียกเงินและแอบอ้างตำรวจ โดยได้ส่งขอมูลให้ตำรวจขยายผลแล้ว ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและจัดการปัญหานี้ โดยวันที่ 11 ก.พ.นี้จะเข้าพบผู้บริหารกระทรวงฯ พร้อมนักศึกษาผู้เสียหาย
ม.กรุงเทพตั้ง คกก.พิจารณาโทษผู้ก่อเหตุ-เยียวยาผู้เสียหาย
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ออกแถลการณ์แสดงความห่วงใยต่อผู้ได้รับผลกระทบและย้ำว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ รวมทั้งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรง จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยทันทีและได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องทุกกรณี
รวมถึงตั้งคณะกรรมการปกครองสอบสวนและพิจารณาโทษตามระเบียบข้อบังคับทางวินัยของมหาวิทยาลัย ควบคู่กับการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับตำรวจเพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย
นอกจากนี้ได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน ยกเลิกการเพิกถอนรายวิชาเพื่อให้นักศึกษาเรียนได้ตามปกติ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่นักศึกษาและผู้ปกครอง พร้อมประสานงานตำรวจอย่างใกล้ชิด ให้การรักษาพยาบาลโดยทีมแพทย์และพยาบาลของมหาวิทยาลัย และจัดเตรียมจิตแพทย์-นักจิตวิทยาเพื่อดูแลสภาพจิตใจในกรณีที่นักศึกษาต้องการคำปรึกษา
ขณะที่นายนฤเบศน์ รักษ์วิจิตร นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ โพสต์ข้อความระบุถึงนักศึกษาผู้เสียหายว่า เป็นผู้ที่มีความสำคัญในทีมสโมสรนักศึกษาและเคยเป็นส่วนหนึ่งในหลายโครงการของมหาวิทยาลัย พร้อมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยพิจารณาถอดชื่อนักศึกษาผู้ก่อเหตุออกจากทะเบียนนักศึกษา เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้เสียหาย รวมถึงนักศึกษาทุกคนในมหาวิทยาลัย
"นักอาชญาวิทยา" ชี้คนรวมตัวเพราะไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
ด้านนักอาชญาวิทยา ให้ความเห็นว่า การที่กลุ่มคนรวมตัวกันเพื่อกดดันให้ผู้กระทำผิดมอบตัว หรือป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดหลบหนี คล้ายกับการล่าแม่มด คือสิ่งสะท้อนว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่จิตแพทย์ ระบุว่า การรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ไม่เฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ แต่ที่ต้องระมัดระวังคือการไม่ใช้ความรุนแรง เพราะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา
อ่านข่าว