เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า ทางการจีนกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรของไทย อำนวยความสะดวกให้ลักลอบนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปใช้ในขบวนการคอลเซนเตอร์ตามด่านชายแดนต่างๆ
จากการตรวจสอบร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และส่วนงานที่รับผิดชอบ ไม่ได้มีการกล่าวอ้างตามที่เป็นข่าว แต่มีสื่อบางสำนักนำไปตีความกันเองจนเกิดความเข้าใจผิด โดยข้อเท็จจริงตามมารยาททางการทูต ไม่มีประเทศใดออกมาประกาศว่าร้ายประเทศอื่นกระทำความผิด หากไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงที่แน่ชัด แต่ยืนยันว่าทางการจีนพร้อมจะร่วมมือทำงานกับประเทศไทย
อ่านข่าว : ด่วน! กฟภ.ตัดไฟ 5 จุดเมียนมา 20.3 เมกะวัตต์สกัดคอลเซนเตอร์
ส่วนมาตรการปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ ขณะนี้กรมศุลกากรยังยึดแนวทางปฎิบัติตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่กระทำความผิด หลังจากนี้จะประชุมเพื่อวางมาตรการให้สอดคล้องกับระดับนโยบาย
รมช.คลัง ยอมรับว่า ยังมีกองทัพมดที่ลักลอบขนส่งสินค้าผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติ แต่ปริมาณของการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าไม่ได้มีปริมาณมากอย่างมีนัย ซึ่งกรมศุลกากรอยู่ระหว่างติดตามตรวจสอบ
กกร.ชี้ตัดไฟฟ้าเมียนมากระทบการค้าชายแดนเล็กน้อย
ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า การตัดไฟฟ้าที่ไทยส่งให้เมียนมาอาจส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนในกิจการบางประเภท ทั้งในฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา แต่เป็นผลกระทบเพียงเล็กน้อยหากเทียบกับความเสียหายที่ประชาชนถูกขบวนการคอลเซนเตอร์หลอกลวง
พร้อมเชื่อว่ารัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามอำนาจที่มี เพื่อตัดต้นตอปัญหาและชั่งน้ำหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว ขณะเดียวกันเหตุการณ์ความไม่สงบภายในเมียนมาทำให้มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคจากฝั่งไทยมากขึ้น
อ่านข่าว
เมียวดียังสว่าง! ถูกไทยตัดไฟวันแรก จับตาเมียนมาอพยพ
"พญาตองซู" ยังสว่าง คืนแรกไทยตัดไฟครั้งแรกในรอบ 25 ปี
"มั่นคง" ส่องชายแดนไทย-เมียนมา หลังตัดไฟ-อินเทอร์เน็ต เมียวดี