ภาพการลงพื้นที่หาเสียง นายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.ของแกนนำพรรคการเมืองคนสำคัญ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน สะท้อนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังเป็นสงครามตัวแทนของพรรคการเมือง ขณะที่ประเด็นการหาเสียงของผู้ช่วยหาเสียงระดับอดีตแกนนำพรรคการเมือง กลับยึดโยงกับนโยบาย หรือ อุดมการณ์ของพรรคเป็นสำคัญ
รศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ให้ความเห็นว่าการหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.ครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นเราควรที่จะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนผู้สมัครหรือไม่ หรือ การเมืองท้องถิ่นควรจะตัดขาดจากการเมืองในระดับชาติ และ ให้คนท้องถิ่นจัดการเลือกตั้งกันเอง
เพราะสิ่งที่เห็นในการเลือกตั้งท้องถิ่น คือ ประเด็นที่ถูกพูดถึง ซึ่งควรเกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต ปากท้อง หรือ ความอยู่รอดของท้องถิ่น กลับกลายเป็นประเด็นการเมืองระดับชาติ แม้ผู้สมัครจะมีนโยบายบางเรื่องที่เป็นส่วนตัว แต่มันก็ถูกกลบด้วยกระแส หรือ จุดยืนของพรรคการเมือง หรือ ถูกนำไปยึดโยงกับการต่อสู้แข่งขันทางการเมืองของพรรคการเมืองระดับประเทศ
ประเด็นหนึ่ง ที่มีการพูดถึงกันน้อย แต่ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการพูดถึง คือเราควรจะเปิดโอกาสในพรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นมากน้อยแค่ไหน ถ้ากระแสการเมืองระดับชาติ มันกลบเสียงของท้องถิ่นไป การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เราทำให้เห็นว่าเอาจริงๆแล้ว ถ้ามันมีการเลือกตั้งแบบพรรคเข้ามาแบบนี้ ปัญหาของท้องถิ่นได้รับการแก้ไขจริงไหม
จุดยืนของปัญหาของคนในท้องถิ่นมันควรจะเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น หาไม่แล้วเนี่ย จุดประสงค์ของการกระจายอำนาจมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ เพราะว่าการกระจายอำนาจ คือ การให้คนในท้องถิ่นแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามการที่พรรคการเมืองระดับประเทศเข้ามามีบทบาทในการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ก็สร้างกระแสความตื่นตัวให้กับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลายๆ จังหวัด ที่มีการประเมินว่าผลการเลือกตั้ง อบจ.อาจกำหนดผลการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า
รศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รศ.ฐิติวุฒิ บอกว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ ประชาชนมีความตื่นตัวสูงมาก เพราะผู้สมัครนำวิธีคิดใหม่ๆ จากในระดับประเทศ หรือ ระดับชาติ มาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น และ ณ ปัจจุบันคนในท้องถิ่น ไม่ได้มองว่าการปกครองท้องถิ่น เป็นการปกครองแบบที่ไม่มีประโยชน์ หรือ ไม่มีผลกระทบต่อตัวเอง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีงบประมาณไม่ต่ำกว่าพันล้าน
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือ เมื่อมีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครหาเสียง ประเด็นของท้องถิ่นก็กลายเป็นประเด็นระดับประเทศ เป็นกระแสที่ดึงให้การเลือกตั้งท้องถิ่นได้รับความสนใจมากขึ้น
บางจังหวัดในภาคใต้ เป็นการแข่งขันระหว่าง บ้านใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของที่นั่งเดิม กับเจ้าใหม่ที่มีความชำนาญในการใช้สื่อออนไลน์ ทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตื่นตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เราไม่เคยเห็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ประชาชนต่างอำเภอ ต่างจังหวัด จะกลับบ้านเพื่อไปเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะประชาชนมักจะกลับบ้านไปเลือกตั้งเฉพาะกรณีเลือกตั้งระดับชาติ จุดแห่งความสำเร็จของการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ คือ ประชาชนเต็มใจที่จะกลับไปเลือกตั้งในพื้นที่ของตัวเอง
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงของการเลือกตั้ง อบจ.ที่เกิดขึ้นในบางจังหวัด คือ การหาเสียงผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีมากขึ้น รศ.ฐิติวุฒิ มองว่าเป็นความตั้งใจของผู้สมัครที่ต้องการเจาะฐานเสียงคนรุ่นใหม่ ขณะที่คนทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพต่างเข้าถึงสื่อออนไลน์ ที่การพัฒนาของแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ได้ทุกมิติ แต่มีต้นทุนต่ำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการตรวจสอบ
ทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย
เพราะแม้ กกต.จะกำหนดกฎเกณฑ์การหาเสียงผ่านช่องทางออนไลน์ไว้แล้ว แต่ก็เป็นเพียงข้อกำหนดกว้างๆ สิ่งที่สำคัญ คือ การใช้งบประมาณผลิตสื่อออนไลน์จะเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และ การโจมตี หรือ การใส่ร้ายทางไซเบอร์ จะสามารถตรวจสอบได้มากน้อย แค่ไหน
รายงาน : พยุงศักดิ์ ศรีวิชัย ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ