ยื้อต่อและยังไม่ชัดเจนกับนโยบายแก้ปัญหาเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์และกลุ่มค้ายาเสพติด ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก แม้ “หลิว จงอี” รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของประเทศจีน พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทิ้งท้าย 為什麼你對照顧自己的國家不感興趣 ?… ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย ?
ประเด็นนี้ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นการทำงานของรัฐบาล เสมือนหนึ่งไม่ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาแล้ว ยังมีการผลักภาระระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัด หลังเกิดเหตุลวงเหยื่อ ทั้งไทย และต่างชาติกว่า 15 ประเทศเข้าไปทำงานให้กับ 36 กลุ่มทุนจีนเทา ในเมียววดี โดยใช้ประเทศไทย เป็นเส้นทางผ่านและลักลอบนำคนออกนอกประเทศ
มีรายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า การลงพื้นที่ของ หลิว จงอี และมีการแลกเปลี่ยนความเห็นโดยทางการจีนมี 4 ประเด็นสำคัญ คือ
1.ขอให้ทางการไทย ตัดบริการสาธารณูปโภค เช่น ตัดไฟฟ้า ตัดน้ำประปา ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้ในการกระทำ ความผิดในฝั่งเมียนมา
2.ขอให้ทางการไทยเจรจากับชนกลุ่มน้อย ที่ปกครองบริเวณชายแดนเมียนมา ปล่อยตัวชาวจีนที่ถูกหลอกไปทำงานกลับมาไทย ซึ่งจีนเชื่อว่า มีประมาณ 3,000 - 5,000 คน
3.ตั้งศูนย์ประสานงาน ระหว่างไทย-จีน ที่บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก
4.และขอให้จับกุมชาวจีน ซึ่งพบข้อมูลว่า กระทำความผิด เกี่ยวกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่บริเวณชายแดนประเทศเมียนมา ซึ่งทางการจีนเชื่อว่า น่าจะมีจำนวนมากกว่า 50,000 คน
ท่ามกลางข้อเรียกร้องของทางการจีนและคนไทย ที่ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลไทย ให้มีคำสั่งตัดกระแสไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคที่ส่งไปเมียนมา โดยเฉพาะการตัดแสไฟฟ้า ซึ่งได้กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีมาตรใด ๆ ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
"มาริษ" คาดอีก 1 เดือนชัดเจน โยน สมช.ถก "ความมั่นคง"
แม้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะออกมาเปิดเผย หลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งเป็นครั้งแรก นับจากเกิดปัญหา โดยยอมรับว่า มีการหารือเรื่องการตัดไฟไปเมียนมา
โดยมอบหมายให้ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ไปรับฟังความคิดเห็นและรายละเอียดจากทุกหน่วยงานความมั่นคงก่อนที่จะมีการตัดสินใจ และที่ประชุมคณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติคณะใหญ่เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจเป็นคนสุดท้าย
ไทม์ไลน์ที่วางไว้ไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งต้องฟังเหตุผลและความสมดุล เพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย” รมว.ต่างประเทศ ระบุ
มีข้อมูลระบุว่า เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ออกมาชี้แจงว่า เคยทำหนังสือขอความเห็นไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคง ครบทั้ง 3 จังหวัด คือ จ.ตาก , เชียงรายและกาญจนบุรี โดยเฉพาะที่ จ.ตาก ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ,ตำรวจ, ป.ป.ส., ป.ป.ง., ดีเอสไอ และกรมเอเซียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหภาพเมียนมา กำหนดมาตรการควบคุมกำกับดูแลการซื้อขายไฟฟ้า
ณ จุดซื้อขายบริเวณบ้านวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก -บ้านก๊กโก่ อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา และจุดซื้อขายไฟ บริเวณสะพานมิตรภาพ บ้านเมืองแดง อ.เชียงสาย จ.เชียงราย - อ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามรัฐฉาน เมียนมา ให้ตรวจสอบผู้ซื้อ-ขายไฟฟ้า เนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด และกระบวนการฟอกเงินของผู้ได้รับสัมปทาน แต่ทั้งหมดนี้ ไม่เคยได้รับคำตอบ
อนุทิน แจง ตัดไฟฟ้ายังไร้คำตอบ "มั่นคง"
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาชี้แจง ประเด็นนี้ว่า กรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำหน่ายไฟฟ้าให้เมียนมา หากหน่วยงานความมั่นคงชี้ว่า การส่งไฟฟ้าเป็นภัยต่อความมั่นคง ก็พร้อมตัดไฟทันที เนื่องจากการจำหน่ายไฟฟ้าดำเนินการตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคง
ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้จะมีการเร่งรัดหลายครั้ง ทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการหยุดจ่ายไฟได้ตามอำเภอใจ
และในวันที่ 4-6 ก.พ.นี้ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะประชุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว โดยกระทรวงมหาดไทยจะรอติดตามผลการประชุมและดำเนินการตามคำสั่งต่อไป
"การไฟฟ้า" อ้างไร้อำนาจตรวจสอบลูกค้า
วันเดียวกัน (31 ม.ค) นายประดิษฐ์ เฟื่องฟู รองผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA ในฐานะโฆษกประจำ กฟภ. และ นายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่า กฟภ. ออกมาชี้แจงว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2539 เห็นชอบหลักการให้ PEA ขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณหมู่บ้านที่ใกล้กับเขตชายแดนของประเทศไทย โดยไม่ต้องขออนุมัติในระดับนโยบายอีก ยกเว้นมีประเด็นสำคัญที่ต้องเสนอให้คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.)พิจารณา
ปัจจุบัน PEA มีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเฉลี่ยปีละ 800 ล้านบาท จากยอดขายไฟทั้งหมดที่ 6 แสนล้านบาท ในราคาเท่ากับประเทศไทย ในสัดส่วนที่น้อยมาก
โดยการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เมียนมาปัจจุบัน มี 5 จุด คือ
1. บ้านเจดีย์สามองค์ - เมืองพญาตองซู รัฐมอญ บริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
2. บ้านเหมืองแดง - เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
3. สะพานมิตรภาพไทย – พม่า - เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
4. สะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง บริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
5. บ้านห้วยม่วง - อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มีบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited (SMTY) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
การจ่ายไฟฟ้าในจุดซื้อขายไฟฟ้าไปยังเมียนมา คู่สัญญาทุกจุดซื้อขายไฟฟ้าเป็นผู้ได้รับสิทธิสัมปทานการซื้อขายไฟฟ้าจากรัฐบาลของสาธารณรัฐแห่งสห ภาพเมียนมา โดยผ่านการรับรองความถูกต้องและความน่าเชื่อถือด้านเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศ และ PEA ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของไทยในพื้นที่ก่อนจำหน่ายไฟฟ้าไปยังเมียนมา
ส่วนการงดจ่ายไฟฟ้า หรือบอกเลิกสัญญา มี 2 กรณี คือ 1. คู่สัญญาดำเนินการผิดสัญญา เช่น ไม่ชำระค่าไฟฟ้าตามกำหนด ไม่วางหลักประกันสัญญา และ 2. กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
อ่านข่าว
"เปรี้ยง" โผไม่พลิก โค้งสุดท้ายนายก อบจ. 47 จังหวัด ใคร ? ลอยลำ
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- แก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีน
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
- หลิว จงอี รมช.กระทรวงความมั่นคงจีน
- ตัดไฟเมียนมา
- อนุทิน ชาญวีรกูล
- มาริษ เสงี่ยมพงษ์
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- ตัดไฟชายแดนไทย-เมียนมา
- เมืองสแกมเมอร์เมียวดี
- เมียวดี
- เมียนมา
- เมืองสแกมเมอร์
- เมืองชเวโก๊กโก่
- เมืองเมียวดี
- ข่าวอาชญากรรม
- ข่าวอาชญากรรมวันนี้
- เจาะข่าวจริงกับไทยพีบีเอส