นายก อบจ.ภูเก็ต คนใหม่ จะได้บริหารงบประมาณ 1.7 พันล้านบาท ของปี 2568 ด้วยความหวังของคนในพื้นที่อยากให้แก้ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาขยะ และการจราจร ฯลฯ
ตำแหน่ง นายก อบจ.ภูเก็ต มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง 3 คน คนแรก คือ นายเรวัต อารีรอบ อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต เบอร์ 1 จาก ทีมภูเก็ตหยัดได้ ซึ่งเป็นทีมอิสระ ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์
อ่านข่าว : ทำไมถึงเลือกตั้ง อบจ. วันเสาร์ ?
นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล อดีตรองผู้อำนวยการ รพ.วชิระภูเก็ต เบอร์ 2 จากทีมประชาชนภูเก็ต ส่งลงสมัครโดยพรรคประชาชน และเบอร์ 3 นายศรีเทพ อุดมลาภ ผู้สมัครอิสระ เคยลงสมัครการเมืองในหลายสนาม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
ในโค้งสุดท้ายการหาเสียงนายก อบจ. โดยเฉพาะเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 หลังจากมีการเปิดเวทีใหญ่แนะนำตัว พร้อมด้วยนโยบายและผลงานที่ผ่านมา รวมถึงการแนะนำตัวผู้สมัคร ส.อบจ.แต่ละเขตแล้ว
โดยในส่วนของนายเรวัต อารีรอบ หรือ โกวัต เบอร์ 1 ได้เปิดเวทีปราศรัยชี้แจงผลงานตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงนโยบายที่จะทำต่อไป หากได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งมี 8 นโยบายหลัก ภายใต้สโลแกน “เราทำงานทุกวัน ทำจริงไม่ขายฝัน เรวัตหยัดได้”
ขณะที่ นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล หรือ หมอโอ เบอร์ 2 ซึ่งเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในวันเดียวกัน ได้ดึงเอานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม และ น.ส.ชุติมา คลพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตลอดจน สส.ภูเก็ตทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ นายสมชาติ เพชถาวรเจริญ, นายเฉลิมพงษ์ แสงดี และนายฐิติกันต์ ฐิติพฤติกุล มาช่วยหาเสียง
เพื่อดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มด้อมส้ม เน้นการโชว์วิสัยทัศน์ และนโยบายที่จะทำหากได้รับการเลือกตั้ง ภายใต้สโลแกน “ภูเก็ตน่าอยู่ ปลอดภัย ดูแลคนใน ใจผู้มาเยือน”
ส่วนเบอร์ 3 นายศรีเทพ อุดมลาภ ผู้สมัครอิสระ ไม่ได้มีการเปิดเวทีปราศรัย มีเพียงป้ายแนะนำตัวที่มีให้เห็นน้อยมาก
นอกจากการลงพื้นที่พบปะแนะนำตัวกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ของบรรดาผู้สมัครนายก อบจ.ของแต่ละทีมแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในโค้งสุดท้ายนี้ คือการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำผลงานและนโยบายที่จะดำเนินการ ตามถนนสายต่าง ๆ โดยเฉพาะในถนนสายหลัก จะค่อนข้างชัดเจนมาก
แม้ว่าในส่วนของคอการเมือ งอาจจะมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เงียบเหงา ด้วยส่วนใหญ่เชื่อว่า คะแนนเสียงจะเป็นของอดีตนายก อบจ. เนื่องจากมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และต้องการให้มาสานต่องานที่ค้างคาอยู่
แม้ว่าคอการเมืองในระดับชาติอาจจะมองว่า ภูเก็ตมี สส.จากพรรคประชาชน ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ดังนั้นความเป็นไปได้ของผู้ที่จะมาลงเลือกตั้ง น่าจะเทคะแนนไปให้ผู้สมัครจากพรรคประชาชนมากกว่า
แต่โดยปกติแล้ว หากมีการติดตามอการเมืองของภูเก็ตอย่างใกล้ชิด จะพบว่า การเมืองระดับชาติ กับการเมืองท้องถิ่นจะแยกกันอย่างชัดเจน และเคยมีให้เห็นมาแล้ว ในคราวการเลือกตั้งที่มีการชิงเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต ระหว่างนางอัญชลี วานิช เทพบุตร ซึ่งครั้งนั้นลงในนามของพรรคประชาธิปัตย์ กับนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ผู้สมัครจากทีมคนบ้านเรา ซึ่งไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด
นายอดิศักดิ์ อัคสินธวังกูร คอการเมืองและผู้แทนจากสภาพลเมืองภูเก็ต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยกับคนในชุมชน พร้อมสำรวจความคิดเห็นของคนในชุมชน ว่า ต้องการเลือกอย่างไร ส่วนใหญ่บอกว่า เลือกคนที่มีจิตอาสา มีนโยบายที่จะแก้ปัญหาให้กับภูเก็ต และมีผลงาน ทำให้เห็นภาพว่า หากทีมใดสามารถตอบโจทย์ชาวบ้านได้มากที่สุด มีโอกาสได้รับการเลือกตั้ง
ขณะที่หัวคะแนนบางคน บอกว่า การเลือกตั้งในปัจจุบันไม่เหมือนกับในอดีตแล้ว ประชาชนมีการตื่นตัวทางการเมืองค่อนข้างมาก และให้ความสำคัญกับเรื่องของนโยบายค่อนข้างมาก
นอกจากนี้เสียงสะท้อน ต้องการให้ทีม อบจ.ที่จะเข้าไปนั้น แก้ปัญหาเร่งด่วนเรื่องการจราจรเป็นลำกับแรก เพราะ อบจ.เองก็มีหน้าที่ในการทำในเรื่องของวิศวกรรมจราจร และแก้ปัญหาจราจรได้
ส่วนของน้ำท่วมน้ำแล้ง หรือการพัฒนาคุณภาพของเด็ก ผู้สูงอายุ หรืออื่น ๆ ก็หวังที่จะให้ อบจ.เข้ามาช่วยดูแล และจากงบประมาณปีละกว่า 1,000 ล้านบาท สามารถทำอะไรได้มากพอสมควรในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตามนายอดิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้านบอกว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ดูเหมือนจะเงียบเหงาไม่คึกคักเท่าที่ควร จึงอยากให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้
ส่วนการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 อาจจะเป็นอุปสรรคบ้างเล็กน้อย เนื่องจากบางคนไม่ตรงกับวันหยุด แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะออกมาใช้สิทธิ ส่วนการแข่งขันที่ได้มีการพูดคุยกับหลายๆ ฝ่าย พบว่า ไม่มีความรุนแรง แต่จะแข่งกันในเรื่องของนโยบายมากกว่า รวมถึงการเข้าหาชาวบ้าน ส่วนเรื่องการซื้อเสียง ได้ยินในชุมชนพูดกัน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ ว่ามีการซื้อกันอย่างไรบ้าง
สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 24 เขตเลือกตั้ง ในส่วนของนายก อบจ.ภูเก็ต จำนวน 314,408 คน และ ส.อบจ. จำนวน 307,317 คน ทั้งนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต (กกต.ภูเก็ต) ตั้งเป้าว่า จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวน 70 % ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้
อ่านข่าว : วัดพลังแชมป์เก่า 5 สมัย เลือกตั้ง นายก อบจ.จันทบุรี
ตามหา นศ. ป.เอก ชาวไทยในญี่ปุ่น หลังหายตัวปริศนา
ตัวเต็ง "จิม จักรพันธ์" ปะทะ "สจ.ปาล์ม" ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.นครนายก