ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นักวิชาการเสนอปรับค่าความปลอดภัย PM2.5 เท่าเกณฑ์ WHO

สังคม
29 ม.ค. 68
20:26
415
Logo Thai PBS
นักวิชาการเสนอปรับค่าความปลอดภัย PM2.5 เท่าเกณฑ์ WHO
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักวิชาการจากจุฬาฯ เสนอให้รัฐบาลปรับเกณฑ์ค่ามาตรฐานวัดฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ให้สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลกที่กำหนดให้ไม่เกิน 15 มคก./ลบ.ม.

วันนี้ (29 ม.ค.2568) เวทีเสวนาระดมความคิดจากนักวิชาการเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 พญ.ภัทราวลัย สิรินารา ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงผลกระทบของฝุ่นที่ทำให้เกิดทั้งโรคเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น ระคายเคือง เจ็บคอ หายใจไม่สะดวก จนถึงหอบหืด หลอดลมอักเสบ โรคหัวใจและมะเร็งปอด นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่าฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีโลหะหนักที่เป็นสารก่อมะเร็ง

สำหรับประเทศไทย เกณฑ์มาตรฐานค่าฝุ่น PM2.5 ที่กำหนดโดยรัฐบาลสูงกว่าเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อเกิดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 การออกมาตรการดูแลและป้องกันผลกระทบจึงล่าช้า ทั้งผลกระทบต่อสุขภาพ การใช้ชีวิตของประชาชน จนไปถึงภาคเศรษฐกิจ

พญ.ภัทราวลัย สิรินารา

พญ.ภัทราวลัย สิรินารา

พญ.ภัทราวลัย สิรินารา

เปรียบเทียบเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศ PM2.5 ของไทย พบว่า กำหนดให้ PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ขณะที่องค์การอนามัยโลก กำหนดให้ไม่เกิน 15 มคก./ลบ.ม. ซึ่งถือว่าเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนแล้ว จึงเสนอให้รัฐบาลปรับเกณฑ์ค่ามาตรฐานวัดฝุ่น PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ให้สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน

ถ้าปรับเกณฑ์ความปลอดภัยของ PM2.5 ลดลงเหลือค่าคำแนะนำของ WHO ที่ 15 มคก./ลบ.ม. จะช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งในประชากรไทยได้ถึง 44% หากไม่สามารถทำได้ก็มีเกณฑ์ที่พบกันคนละครึ่งทาง โดยปรับค่าความปลอดภัยให้น้อยกว่า 25 ก็จะสามารถช่วยประชากรไทยไม่ให้เป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 17%

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้รัฐบาลมีแผนจัดการระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระยะยาว กำหนดแผนรับมือและควบคุมฝุ่นที่ชัดเจนและทำต่อเนื่องทุกปี รวมถึงทำความเข้าใจวิถีชีวิตประชาชนและเสนอทางเลือกลดฝุ่น

รัฐเข้มลดเวลาปรับปรุงรถควันดำภายใน 15 วัน

ขณะที่อีกหนึ่งมาตรการที่หน่วยงานของรัฐเดินหน้าอย่างเข้มข้น คือการตรวจจับรถควันดำ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ รถบรรทุก รถโดยสารประจำทางที่เป็นของหน่วยงานรัฐและรถร่วมบริการ

ก่อนหน้านี้ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ซึ่งทำงานร่วมกับกรมการขนส่งทางบกและกองบังคับการตำรวจจราจร กำหนดให้รถทุกประเภทที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน ถูกติดสติ๊กเกอร์ ห้ามใช้ชั่วคราวและต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน แต่ล่าสุดมีการปรับเกณฑ์ใหม่ให้เหลือวันปรับปรุงแก้ไขภายใน 15 วันและบังคับใช้อัตราโทษปรับสูงสุดตามกฎหมาย

เนื่องจากพบว่ามีการนำรถที่มีปัญหาควันดำที่ถูกติดสติกเกอร์ "ห้ามใช้ชั่วคราว" เพื่อให้นำรถไปปรับปรุงแก้ไข มาวิ่งในช่วงเวลาที่ห้ามใช้

"ชัชชาติ" เตรียมเสนอรัฐบาลประกาศ กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษ

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมเสนอรัฐบาล จำนวน 11 ข้อ เพื่อรับมือปัญหาฝุ่นพิษทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะ กทม.ไม่มีอำนาจดำเนินการด้วยตนเอง เช่น ประกาศให้พื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษ จะทำให้ กทม.มีอำนาจจัดการด้านต่างๆ

รวมถึงนำงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมาใช้เพิ่มระบบต่าง ๆ ได้, การเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการจัดการรถควันดำและการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม โดยจะเร่งทำรายละเอียดเพื่อเสนอรัฐบาลภายในสัปดาห์นี้

อ่านข่าว

เตือน กทม.ฝุ่นสูงอีกรอบ 30 ม.ค.–5 ก.พ.

เริ่มบังคับแล้ว! ปรับระเบียบ 15 วันรถควันดำต้องปรับปรุง

รัฐบาลเพื่อไทย โปรยเงินฉุกเฉิน 620 ล้านสู้ฝุ่น ทส.ลั่นไม่เทงบทิ้ง

"อนุทิน"​ เข้มใช้ กม.แก้ฝุ่น "ห้ามเผา 3 เดือน" ชงของบช่วยเกษตรกร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง