วันนี้ ( 27 ม.ค.2568) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา แม้แนวโน้มระยะยาวของราคาทองคำจะยังคงเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่การปรับตัวขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2567 และการเกิดรูปแบบ Double Top อาจบ่งชี้ว่ารอบของขาขึ้นกำลังเข้าสู่ช่วงสิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถฟื้นตัวและยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ 2,763 ดอลลาร์ได้ จะช่วยยืนยันว่าแนวโน้มกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง และในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำอาจกลับมาผันผวนอีกครั้ง จากการประกาศผลการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงคืนวันพุธนี้ ที่จะมีการประกาศผลการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
วิเคราะห์ราคาทองราคาทองคำมีแรงซื้อเข้าหนุนจากแนวรับที่ 2,750 ดอลลาร์ โดยประเมินว่ามีแนวโน้มที่ราคาอาจขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 2,763 ดอลลาร์ก่อน ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลงในช่วงเช้า หลังเกิดรูปแบบรูปแบบดาวตก ซึ่งราคามักปรับตัวลงหลังเกิดรูปแบบดังกล่าว โดยหลังลงทดสอบแนวรับแล้วเริ่มมีแรงซื้อกลับ แต่ด้วยแนวโน้มที่ยังไม่ชัดเจนจึงแนะนำ Wait and See หรือซื้อขายในกรอบ 2,750-2,775 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5%แนวรับ : 43,800 และ 43,700 บาทแนวต้าน : 44,150 และ 44,400 บาท ราคายังคงติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 44,150 บาท ระยะสั้นประเมินว่าอาจปรับตัวลงสู่แนวรับ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อ ประเมินแนวรับสำคัญไว้ที่ระดับ 43,800 บาท โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 44,150 บาท และตัดขาดทุนที่ 43,700 บาท
สำหรับราคาทองคำปิดตลาดลบ 100 บาท (ผันผวน 3 ครั้ง) ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 44,050 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 43,950 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 44,550 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 43,160.52 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,757 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 33.76 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 6,006บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 11,513 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 22,525บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 44,550 บาท ภาพรวมราคาทองเดือนม.ค.2568 บวก 1,650 บาท
อ่านข่าว:
ตลาดจับตา เฟดประชุม28-29 ม.ค.นี้ เงินบาทอ่อนรับดอลลาร์แข็งค่า
“เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว”ฟื้น หนุนจดทะเบียนปี67สูงเป็นประวัติการณ์