ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศึกชิงนายก อบจ.เชียงใหม่ วัดพลัง พรรคเพื่อไทย-พรรคประชาชน

การเมือง
22 ม.ค. 68
13:36
113
Logo Thai PBS
ศึกชิงนายก อบจ.เชียงใหม่ วัดพลัง พรรคเพื่อไทย-พรรคประชาชน

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งสนาม ที่น่าจับตามอง เพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงต่อเนื่อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยหวังรักษาเก้าอี้อีกสมัคร เพื่อเตรียมทวงคืนสส. 7 เก้าอี้ ที่เคยเสียไปกลับคืนในการเลือกตั้ง สส.ในปี 2570

ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ตัวแทนพรรคเพื่อไทย และนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ จากพรรคประชาชน ยังคงลงพื้นที่เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะมีขึ้นวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

นายพิชัย ยังคงเน้นสานต่อนโยบายที่เคยทำเอาไว้ทั้งการพัฒนาสาธารณูปโภค แก้ฝุ่นและพัฒนาคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่

ด้านนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ตัวแทนพรรคประชาชน ก็ลงพื้นที่พบปะประชาชนต่อเนื่องเช่นกัน ต้องการผลักดันนโยบายที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง เน้น 8 นโยบายหลักเช่นพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เชื่อม 25 อำเภอ และลดมลพิษทางอากาศ เป็นต้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ณัฐกร วิฑิตานนท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งที่มีพรรคการเมือง เข้ามามีบทบาทในการหาเสียงในพื้นที่ จึงทำให้มีความคึกคักขึ้น เนื่องจากการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเสียที่นั่งให้กับพรรคก้าวไกล มากถึง 7 ที่นั่ง และพลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง การเลือกตั้งอบจ. จึงมีความพยายามที่จะดึงฐานเสียงที่เสียกลับคืนมา

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียังเป็นตัวแปรสำคัญเนื่องจากยังมีความนิยมในตัว พรรคเพื่อไทยจึงต้องใช้นายทักษิณมาช่วย ในการเรียกความนิยมพรรค เพื่อเรียกคืนฐานเสียง เพื่อปูทางในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งข้อแตกต่างในการลงพื้นที่หาเสียงของทั้งสองพรรค คือ เพื่อไทย ให้นายทักษิณ ขึ้นเวทีปราศรัยโดยเน้นพูดถึงผลงานในอดีต เป็นส่วนใหญ่และสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม และการจัดการปัญหาเหล่านั้น ส่วนเรื่องการพัฒนาจะพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้ง อบจ.เล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่พรรคประชาชน เน้นพูดถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจ ปรับรูปแบบ อบจ.ให้มีการบริหารงานทให้มีความโปร่งใสขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายกลางที่ใช้กับ อบจ.ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำประปาดื่มได้ ระบบสาธารณสุข ระบบขนส่งมวลชน โดยเน้นบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

อาจารย์ณัฐกร ยังมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยยังได้เปรียบ เพราะมีผลการทำงานที่ผ่านมาเป็นต้นทุน ส่วนคู่แข่งยังไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองท้องถิ่น ประชาชนยังไม่ค่อยรู้จักและไม่เคยเห็นผลงาน จึงทำให้เสียเปรียบ

สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ครั้งนี้มีผู้สมัคร 3 คน ประกอบด้วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร พรรคเพื่อไทย, นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ พรรคประชาชน และพลตรีพนม ศรีเผือด ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ เป็นอดีต กอ.รมน.เชียงใหม่

วิเคราะห์ : ไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ

อ่านข่าว : เหตุเกิดที่ “มหาสารคาม” จังหวัดมีตำนานของ “ทักษิณ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง