ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดัน “หอมแดง” ชิงส่วนแบ่งตลาดอาเซียน ใช้สรรพคุณทางยาชูโรง

เศรษฐกิจ
20 ม.ค. 68
13:09
104
Logo Thai PBS
ดัน “หอมแดง” ชิงส่วนแบ่งตลาดอาเซียน ใช้สรรพคุณทางยาชูโรง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พาณิชย์"หนุนร้านอาหารใช้หอมแดงศรีสะเกษ สินค้า GI ชี้มีสรรพคุณทางยาเพียบ หวังเพิ่มมูลค่า แนะเพิ่มศักยภาพเกษตรกร ทดลองวิจัย เพาะปลูก เผยส่วนแบ่งตลาด "มาเลเซีย"เบอร์หนึ่ง ตามด้วยเวียดนาม -สิงคโปร์- เกาหลีใต้

วันนี้ ( 20 ม.ค.2568) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหอมแดงเผชิญความท้าทายด้านต้นทุนการผลิต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดการผลผลิตในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก การพัฒนาการค้าสินค้าหอมแดง ซึ่งภาครัฐต้องเร่งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาการเพาะปลูก การเก็บรักษาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ทั้งสนับสนุนการแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าที่สอดรับกับความต้องการของตลาด เพื่อนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและคว้าโอกาสการส่งออกได้เพิ่มขึ้น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์

หอมแดงศรีสะเกษ เป็นสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรอยู่ได้ โดยผลักดันให้นำไปใช้รังสรรค์เมนูอาหารที่หลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสนับสนุนการสร้างรายได้ให้เกษตรกร

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า หอมแดงไทยเป็นสินค้าคุณภาพดี เป็นที่รู้จัก มีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมอาหารและยา โดยมีสรรพคุณทางยาที่ใช้ในตำรับยาสมุนไพร อีกทั้งรัฐบาลให้ความสำคัญในฐานะพืชเกษตรเศรษฐกิจ

สำหรับผลผลิตหอมแดงในปี 2567/68 คาดว่าจะมีผลผลิต 152,221 ตัน เพิ่มขึ้น 2.69% ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์การผลิต การตลาด ช่วยเชื่อมโยงนำผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก เข้าไปรับซื้อและกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตตั้งแต่ต้นฤดูกาล เพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาที่เป็นธรรมและคุ้มต้นทุน รวมทั้งนำเปิดจุดจำหน่ายผ่านงานธงฟ้า โมบายพาณิชย์ และรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันบริโภคหอมแดง

ทั้งนี้หอมแดงไทยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย สัดส่วน 48.31% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด เวียดนาม 18.28% สิงคโปร์ 12.53% เกาหลีใต้ 7.51% และอื่น ๆ 13.38% และในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-พ.ย.) ไทยส่งออกหอมแดงปริมาณ 14,728 ตัน มูลค่า 12.11 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.59%

โดยมาเลเซีย เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซีย ระบุว่า หอมแดง หอมหัวใหญ่ และกระเทียม เป็นกลุ่มสินค้าเกษตรที่มาเลเซียพึ่งพาการนำเข้าเพียงอย่างเดียว โดยในปี 2566 ความต้องการใช้หอมแดงของมาเลเซียอยู่ที่ 39,824 ตัน ชาวมาเลเซียบริโภคหอมแดงเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงเกษตรและความมั่นคงทางอาหารของมาเลเซีย ได้พัฒนาการปลูกหอมหัวใหญ่และหอมแดง เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยระยะก่อนการค้า (ปี 2567–2568) จะสำรวจศักยภาพการปลูก จัดหาเมล็ดพันธุ์ พร้อมทั้งกำหนดและพัฒนาพื้นที่ปลูกจำนวน 100 เฮกตาร์

มาเลเซียตั้งเป้าจะผลิตหอมหัวใหญ่และหอมแดง 1,000 ตัน และ ระยะการค้า (ปี 2569–2573) จะพัฒนาพื้นที่ปลูก 1,347 เฮกตาร์ คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิต 14,470 ตัน ตอบสนองต่อความต้องการในประเทศได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2573

ขณะที่อินโดนีเซีย เป็นคู่แข่งสินค้าหอมแดงของไทย หน่วยงานอาหารแห่งชาติของอินโดนีเซีย (Bapanas) ตั้งเป้าหมายให้อินโดนีเซียเป็นผู้นำการผลิตหอมแดง ที่จะมีผลผลิตปีละ 1.35 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการบริโภคภายในประเทศอยู่ที่ 1.16 ล้านตัน แสดงถึงการมีผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศและสำหรับการส่งออก

โดยในปี 2566 การส่งออกหอมแดงของอินโดนีเซียไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นไปในทิศทางที่ดี และการส่งออกไปมาเลเซียก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยส่งออกได้มากถึง 612.8 ตัน จากเพียง 59.6 ตัน ในปี 2564

อ่านข่าว:

 ชาวไร่มันยิ้ม “คอปโกจีน”สั่งซื้อ 9.8 แสนตัน “พาณิชย์”หวังราคาพุ่ง 2.50 บ/กก.

 “หอมแดงศรีสะเกษ” เกษตรกรยิ้ม ขายได้ราคา ผปก.ซื้อถึงสวน“พาณิชย์”ย้ำปาล์ม ไม่ขาดแคลน ผลผลิตเริ่มออก โรงสกัดเปิดรับซื้อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง