ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมศิลปากร เตรียมบูรณะ “เสาชิงช้า” พบรอยแตก-รอยผุ

Logo Thai PBS
กรมศิลปากร เตรียมบูรณะ “เสาชิงช้า” พบรอยแตก-รอยผุ
กรมศิลปากร ไฟเขียว กทม.เตรียมบูรณะโบราณสถาน “เสาชิงช้า” พบรอยแตก-รอยผุบริเวณปลายยอด เตรียมทำค้ำยันก่อนจ้างศึกษาวิธีซ่อมตามเงื่อนไขที่กำหนด ครั้งสุดท้ายปี 2560 เคยบูรณะใช้เวลา 150 วัน

วันนี้ (13 มี.ค.2567) สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง (สวพ.) เผยผลสำรวจความเสียหายของโบราณสถานเสาชิงช้า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เบื้องต้นพบว่า ไม้เสาชิงช้าทั้ง 2 ฝั่งมีรอยแตกและรอยผุ บริเวณปลายยอดเสา

เบื้องต้น แนวทางซ่อมแซมและปรับปรุง ต้องค้ำยันก่อนจ้างศึกษาวิธีซ่อม และจ้างซ่อม เพื่อให้เสาชิงช้ามีสภาพที่มั่นคงแข็งแรง ปลอดภัยต่อผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมชม และเพื่อความสวยงามให้อยู่คู่กับกรุงเทพมหานคร 

เสาชิงช้า เป็นโบราณสถานขึ้นทะเบียนตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 105 ตอนที่ 188 ฉบับพิเศษ วันที่ 16 พ.ย.2531 โดยกรมศิลปากร พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า เนื่องจากเสาชิงช้าอยู่ในสภาพชำรุดเสียหายค่อนข้างมาก ควรต้องได้รับการซ่อมแซมโดยเร่งด่วน

ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 จึงอนุญาตให้สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ดำเนินการซ่อมแชมโบราณสถานเสาชิงช้า โดยขอให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้

  • การซ่อมแชมไม้ส่วนที่ชำรุด ควรซ่อมปรับปรุง (อุด ปะ) และซ่อมเปลี่ยน (ตัดต่อ) ด้วยไม้ชนิดเดียวกับไม้เดิมตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง กาวหรือวัสดุเติมเนื้อไม้ ควรใช้ชนิดสำหรับซ่อมไม้โดยเฉพาะซึ่งจะมีความยืดหยุ่นของวัสดุใกล้เคียงกับเนื้อไม้
  • การต่อชิ้นไม้ด้วยโลหะหรือวัสดุอื่นที่ไม่ใช่ไม้ ควรใช้ชนิดไร้สนิมที่มีการยืดหดขยายตัว ของวัสดุต่ำ หรือยืดหดขยายตัวใกล้เคียงกับไม้ เพื่อลดการชำรุดของไม้บริเวณรอยต่อในอนาคต
  • การเสริมกำลังหรือความมั่นคงด้วยวัสดุสมัยใหม่ ควรต้องมีการวิเคราะห์ปัญหา เชิงวิศวกรรมที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อนกำหนดใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสริมความมั่นคงโดยไม่จำเป็น 

 

  • การตกแต่งผิวไม้ ควรหลีกเลี่ยงวัสดุตกแต่งผิวที่มีความทึบน้ำสูง เพื่อยอมให้ความชื้น ที่สะสมในเนื้อไม้สามารถระบายออกได้โดยสะดวก ทั้งนี้ วัสดุตกแต่งผิวที่มีความทึบน้ำสูงจะส่งผลต่อการผุชำรุดของไม้โดยตรง
  • ดำเนินการสำรวจพร้อมจัดทำแบบสภาพปัจจุบัน และความเสียหายที่เกิดขึ้นในองค์ประกอบแต่ละส่วนของเสาชิงช้าโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำมากำหนดวัสดุ เทคนิคและวิธีการซ่อมแซมให้ตรงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงควรทำการวิเคราะห์วิธีการซ่อมแซมที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเดิม พร้อมส่งให้กรมศิลปากรพิจารณาอีกครั้ง

สำหรับเสาชิงช้า มีการบูรณะครั้งใหญ่ไป เมื่อปี 2548 และครั้งล่าสุดที่ กรมศิลปากรร่วมกับ กทม. เข้าบูรณะเสาชิงช้าเมื่อเดือนธ.ค.2560 ใช้เวลาทั้งสิ้น 150 วัน ซึ่งเสาชิงช้าเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2492 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง