ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ชาติศิริ” ชี้มาตรการรัฐหนุน จีดีพีไทยโต 3% จับตา 3 ความท้าทายศก.ไทย

เศรษฐกิจ
16 ม.ค. 68
17:36
78
Logo Thai PBS
“ชาติศิริ” ชี้มาตรการรัฐหนุน จีดีพีไทยโต 3% จับตา 3 ความท้าทายศก.ไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ชาติศิริ” ชี้มาตรการรัฐหนุนจีดีพีไทยปี 2568โต 3% จับตา 3 โจทย์ใหญ่ ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์-โลกร้อน-การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี(AI) ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อ 3-5% เผยตลาดอาเซียนมีศักยภาพในการลงทุน

วันนี้ (16 ม.ค.2567) นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มปีนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 3% แม้ว่าจะมีดิสรัปชั่น แต่โดยรวมจะขยายตัวได้ ส่วนหนึ่งมาจากการมาตรการและลงทุนภาครัฐที่ทยอยออกมาที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโต

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมธนาคารคาดว่าจะเติบโตสอดคล้องกับเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารกรุงเทพตั้งเป้าเติบโตขยายตัว 3-5% โดยขยายในทุกกลุ่มสินเชื่อ ส่วนสินเชื่อรายใหญ่ ธุรกิจรายกลาง ค้าปลีก ลูกค้าบุคคล และต่างประเทศ เป็นต้น

ส่วนสินเชื่อต่างประเทศยังคงขยายตัวใกล้เคียง โดยในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง และเกิดการย้ายฐานผลิตก่อให้นวัตกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนสะท้อนจากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่สูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท

นายชาติศิริ กล่าวว่า สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)มองว่าภายใต้มาตรการแก้หนี้ คุณสู้ เราช่วยและมาตรการภาครัฐที่ออกมาช่วยสนับสนุนจะทำให้การแก้ปัญหาหนี้ดีขึ้น ซึ่งปีนี้ธนาคารยังสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ โดยอยู่ในระดับปัจจุบัน 3.4% 

จีดีพีปีนี้ น่าจะได้ 3% หรือดีกว่านั้นจากมาตรการภาครัฐต่าง ๆ โดยมองว่าทศวรรษอาเซียนเป็นโอกาส และ FDI ต่าง ๆ เข้ามาเยอะในอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ตาม อาเซียนจำเป็นต้องสร้างความร่วมมือทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับโลก เพราะถือเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายและโอกาสในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในอาเซียนเองที่มีศักยภาพเติบโตสูงตามการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง จึงมีความต้องการมากขึ้นที่จะบริโภคสินค้าและบริการ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการท่องเที่ยว รวมทั้งควรสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้คนทั้งในด้านการศึกษา และการค้าทั่วภูมิภาค

นอกจากนี้ อาเซียนกำลังเกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ถนน รถไฟ ท่าเรือ พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล จะช่วยปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ ลดต้นทุน และยกระดับการขนส่งข้ามเขตเศรษฐกิจ เสริมศักยภาพของภูมิภาคให้กลายเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลก

เพราะไทยกำลังเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงเทพฯ กับพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก และโครงการเพื่อเชื่อมไทย ลาว และจีน คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า

รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมสีเขียว รถยนต์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ที่ผลักดันคำขอส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปีที่ผ่านมาให้สูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.3 ล้านล้านบาท

อาเซียนต้องพร้อมเปลี่ยนความท้าทายของยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ให้กลายเป็นโอกาสสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตให้ได้

นายชาติศิริกล่าวอีกว่า โลกยังกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอีกหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ขยายกว้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงนโยบายของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ดำเนินนโยบายการค้าแบบ American First ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออาเซียน

ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ กฎระเบียบด้าน ESG ที่เข้มงวดขึ้น และความจำเป็นที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดอนาคตและทิศทางขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ

ไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียนตั้งเป้าหมาย Net Zero ซึ่งมาพร้อมกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้าน ESG ที่เข้มงวดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องอาศัยเงินลงทุนอีกมหาศาลเพื่อปรับปรุงปัจจัยต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับกฎระเบียบเหล่านี้

ประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่จะเร่งตัวขึ้นจากการนำ Generative AI ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและธุรกิจในหลายมิติ รวมถึงความคาดหวังของลูกค้าและพนักงานในด้านวิถีชีวิต การทำงาน การบริโภค ทั้งยังเพิ่มความท้าทายในตลาดแรงงานระดับโลกที่มีการแข่งขันสูง

อ่านข่าว:

 เริ่มวันแรก Easy E-Receipt 2.0 ช้อปสินค้าลดหย่อนภาษี

จับตา กกพ.แจงเเนวทางลดค่าไฟเหลือหน่วยละ 3.70 บาท

เดดไลน์ 28 ก.พ. “คุณสู้ เราช่วย” ออมสิน กระตุ้นลูกหนี้รีบลงทะเบียน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง