จากกรณีนายเอกลักษณ์ หรือเอ็ม ก่อเหตุยิงนายลิม กิม ยาอดีต สส.กัมพูชา เสียชีวิต ข้อมูลการสืบสวนมีรายงานว่า ศาลอาญาได้ออกหมายจับนายลี รัตนรัศมี (Ratanakraksmey Ly ) หรือชื่อในประเทศไทย คือ นายสมหวัง บำรุงกิจ อายุ 43ปี ชาวกัมพูชา
ใน 3 ข้อหา “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไม่ว่าด้วยการใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยง ส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใด, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง
หลังชุดสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้ประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี เพื่อขยายผลเพิ่มเติมและนำพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ เสนอต่อศาลอาญาขอออกหมายจับ
ส่วนนายพิช คนชี้เป้า ที่ปรากฏภาพในวงจรปิด และเดินทางมากับผู้เสียชีวิตนั้น ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ขณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างยื่นเรื่องให้กับกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นขอออกหมายแดงกับตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล เพื่อติดตามจับมาดำเนินคดี
ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า ตำรวจพบข้อมูลว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นายสมหวังเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยกว่า 100 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเดินทางเข้าไทยวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา และเดินทางออกนอกประเทศในวันที่ 8 ม.ค. โดยระหว่างอยู่ในไทยนั้น นายสมหวังอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
นอกจากนี้ ตำรวจพบหลักฐานว่าก่อนเกิดเหตุนายสมหวังได้โอนเงิน 30,000 บาท ไปให้นายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม จากนั้นหลังก่อเหตุ 5 นาทีได้โอนเงินให้อีกจำนวน 30,000 บาท เพื่อเป็นค่าหลบหนี
ผบก.น.1 เปิดเผยว่า ภายหลังนายเอกลักษณ์ ได้ให้การเป็นประโยชน์เพิ่มเติมว่า รู้จักกับนายสมหวังมาเกือบ 2 ปี ในช่วงที่ตัวเองมีปัญหาถูกลงโทษทางวินัยจนกระทั่งถูกให้ออกจากราชการ โดยนายสมหวังจะช่วยเหลือปัญหาทางการเงินเป็นประจำ กระทั่งนายสมหวัง อ้างว่ามีปัญหาส่วนตัวกับนายลิม กิมยา จึงมาจ้างวานให้ไปลงมือก่อเหตุ
สำหรับการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คนที่เป็นชาวกัมพูชา และได้หลบหนีกลับประเทศ ขณะนี้ได้ตำรวจประสานกองการต่างประเทศ จัดทำหมายแดง พร้อมประสานตำรวจสากลและทางการกัมพูชาให้ช่วยติดตามตัว
ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้จะมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 4 คนหรือไม่ เบื้องต้นได้พาผู้ที่ให้การช่วยเหลือจัดหาปืน หรือให้ยืมรถในการหลบหนีมาสอบปากคำเพิ่มเติม และกันไว้เป็นพยานแล้ว
อ่านข่าว : บุกรวบตัว "ชาคิต" คนขับรถพา "จ่าเอ็ม" หลบหนีไปชายแดน