ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“เปิ้ล นาคร” ร้อง ตร.ไซเบอร์ ครอบครัวคนใกล้ชิดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก

อาชญากรรม
14 ม.ค. 68
14:37
282
Logo Thai PBS
“เปิ้ล นาคร” ร้อง ตร.ไซเบอร์ ครอบครัวคนใกล้ชิดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“เปิ้ล นาคร” ร้องตำรวจไซเบอร์ หลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายหลอก “ชาล็อต ออสติน”

วันนี้ (14 ม.ค.2568) เวลา 12.55 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายนาคร ศิลาชัย หรือเปิ้ล นาคร นักแสดง พร้อมนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หลังครอบครัวคนใกล้ชิด ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงิน 6 ล้านบาท

เปิ้ล นาคร เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลุงอายุ 71 ปี และป้า อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ของน้องชายคนสนิทของตน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา มีสายโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของลุง อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งว่ามีชื่อคลุงเกี่ยวพันกับคดีฟอกเงิน และขอตรวจสอบบัญชี

ระหว่างการพูดคุยโทรศัพท์สายดังกล่าว ก็มีป้าเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย จากนั้นทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็สั่งให้ลุงและป้าขังตัวเองอยู่คนละห้อง โดยข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร และมีตำรวจหญิงมาร่วมสอบ 1 คน โดยเป็นการสอบแยกกัน ตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น. จากนั้นได้สั่งให้ลุงและป้า โอนเงินทุกบัญชีไปให้มิจฉาชีพตรวจสอบทั้งหมดรวมกัน 10 รอบ (ลุง 10 บัญชี ป้า 1 บัญชี ) เป็นจำนวนเงินกว่า 6,000,000 บาท และอ้างว่าหากตรวจสอบเสร็จจะโอนเงินคืน

กระทั่งพบว่าลุงและป้าเหลือเงินติดบัญชีสุดท้ายเพียง 300,000 บาท ป้าเกิดความสงสัยว่าถูกหลอก จึงพูดคุยกับลุง และตัดสินใจวางสาย ก่อนไปปรึกษากับลูกชายและเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รวมถึงแจ้งความออนไลน์ที่ 1441

เปิ้ล นาคร กล่าวว่า ที่ผ่านผู้เสียหายทั้งสองคน ได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อถูกหลอกลวงก็ยังหลงกล เนื่องจากระหว่างที่มีการพูดคุย รู้สึกเสมือนตัวเองถูกสะกดจิต ทำให้คล้อยตามคำพูด เนื่องจากเกิดความกลัวว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม จึงตัดสินใจทำตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แนะนำ โดยมองว่าทุกคนทุกอาชีพสามารถตกเป็นเหยื่อได้

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ สน.ราษฎร์บูรณะ และทาง สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ประสานมายังที่ศูนย์ 1441 จากนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะประสานกับต้นทางเพื่อหาแนวทาง และหากพบว่าคดีมีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ก็จะโอนคดีมายังตำรวจไซเบอร์เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ เบื้องต้นพบมีแผนประทุษกรรมเดียวกันกับที่หลอก น.ส.ชาล็อต ออสติน แต่จะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

อ่านข่าว : ตม.เข้มคัดกรองต่างชาติเข้าไทย สกัดแก๊งคอลเซนเตอร์ 

บุกรวบตัว "ชาคิต" คนขับรถพา "จ่าเอ็ม" หลบหนีไปชายแดน 

สนั่นโซเชียล! สาวสูบบุหรี่ไฟฟ้าผสมน้ำยากัญชา บนรถไฟฟ้า 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง