วันนี้ (14 ม.ค.2568) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองผบช.ตม.) เปิดเผยแนวทางการสกัดกั้นกลุ่มชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนที่ปัจจุบันอาศัยประเทศไทยเป็นฐานคอลเซนเตอร์ปล่อยสัญญาณก่อเหตุอาชญากรรมรวมถึงเป็นทางผ่านเพื่อหลอกผู้เสียหายไปยังประเทศเพื่อนบ้านว่า
ที่ผ่านมา ตม.ได้มีการเคร่งครัดการคัดกรองชาวต่างชาติ ซึ่งอาจมีพฤติกรรมเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในไทย และมีพฤติการณ์ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการอยู่ในประเทศไทย แต่กรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อาจเข้าข่ายไม่พบความผิดปกติในกลุ่มบุคคลที่เดินทางเข้ามา
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองผบช.ตม.)
หลังเกิดเหตุทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวนติดตามกระบวนการตั้งแต่ผู้ที่เข้ามารับคนจากสนามบินออกไปทางประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทางเข้าประเทศและความถี่ในการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์และเก็บไว้ในฐานข้อมูล สำหรับใช้ในการสืบสวนสอบสวน
ส่วนกรณีกลุ่มคนจีนที่เข้ามาตั้งฐานกระบวนการคอลเซนเตอร์โดยการติดตั้งซิมบ๊อกซ์ (SimBox) ไว้ในประเทศไทยก่อนเดินทางออกนอกประเทศนั้น พล.ต.ต.พันธนะ ยืนยันว่า หากพนักงานสอบสวนพบความผิดและมีการออกหมายจับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีการขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ไว้อยู่แล้ว แต่หากสืบสวนแล้วไม่พบการกระทำความผิดที่ชัดเจนเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการขึ้นบัญชีจับตา (Watchlist) ไว้ หากพบมีการเดินทางเข้าประเทศอีก ก็จะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามพฤติกรรม
อ่านข่าว : ตร.เร่งขยายผลเครือข่ายคอลเซนเตอร์ ฝั่งปอยเปต
เปิดพฤติการณ์ "โบรกเกอร์ชาวจีน" หลอกเงินเพื่อนร่วมชาติ 13 ล้าน
เส้นทางผ่านค้ามนุษย์ ใต้เงา "ทุนจีนเทา" อาชญากรรมข้ามพรมแดน