วันนี้ ( 6 ม.ค.2568) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย ซึ่งได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลจากนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่อาจส่งผลทำให้เกิดเงินเฟ้อสูง และอาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนธ.ค. โดยมาร์กิต ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 58.5 และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย. ตลาดคาดวาจะลดลง 0.3% จากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.
วิเคราะห์ราคาทองแม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลง แต่ยังคงยืนเหนือเส้น SMA100 ที่บริเวณแนวรับ 2,620-2,625 ดอลลาร์ หากสามารถยืนเหนือเส้นแนวรับดังกล่าวสักระยะหนึ่งได้ อาจทำให้เกิดการฟื้นตัวระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด
ราคาทองตลาดโลกแนวรับ 2,620 และ 2,600 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,640 และ 2,650 ดอลลาร์หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับ 2,620 ดอลลาร์ได้ อาจมีการฟื้นตัวเกิดขึ้น ซึ่งสามารถเข้าซื้อบริเวณ 2,620 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,600 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5% แนวรับ : 43,000 และ 42,800 บาท แนวต้าน : 43,300 และ 43,400 บาทคาดว่าราคาทองคำแท่งเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง ซึ่งราคาทองคำแท่งยังติดบริเวณแนวต้าน 43,300-43,400 บาท แต่หากผ่านขึ้นไปได้ คาดว่าราคาทองคำแท่งจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แนะนำ Let Profit Run
สำหรับราคาทองคำปิดตลาด ไม่เปลี่ยนแปลง ผันผวน 9 ครั้ง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 43,150 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 43,050 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 43,650 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 42,281.24 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,633 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.63บาทต่อดอลลาร์
อ่านข่าว:
ราคา “ทองคำ” บวก 50 “รูปพรรณ” ขายออก 43,750 บาท