ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

7 วันอันตรายสงกรานต์ 6 วันตายสะสม 200 เจ็บ 1,362 คน

อาชญากรรม
17 เม.ย. 68
11:42
849
Logo Thai PBS
7 วันอันตรายสงกรานต์ 6 วันตายสะสม 200 เจ็บ 1,362 คน
อ่านให้ฟัง
05:49อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
7 วันอันตรายสงกรานต์ 6 วันตายสะสม 200 เจ็บ 1,362 คน พบสาเหตุหลักขับรถเร็ว 39.35% กำชับวันเดินทางกลับทำงานคุมเข้มเส้นทางสายหลักเข้ากทม.และจังหวัดใหญ่

วันนี้ (17 เม.ย.2568) นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 ว่า ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 16 เม.ย.นี้  ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 155 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 149 คน ผู้เสียชีวิต 22 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 39.35 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 19.35 และทัศนวิสัยไม่ดี ร้อยละ 18.06 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.76

ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 82.58 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.42 ถนนในอบต.หมู่บ้าน ร้อยละ 32.90 ถนนในเมือง (เทศบาล) ร้อยละ 15.48 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 15.01-18.00 น. ร้อยละ 21.29 เวลา 18.01–21.00 น. ร้อยละ 17.42 และเวลา 12.01–15.00 น.ร้อยละ 14.19 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 16.96 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,754 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50,860 คน

โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (9 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 9 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ ปทุมธานี อ่างทอง และเพชรบุรี จังหวัดละ 2 คน

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (11 เม.ย.–16 เม.ย. ) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,377 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,362 คน ผู้เสียชีวิต รวม 200 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 15 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พัทลุง 52 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 56 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 16 คน

คุมเข้มเส้นทางสายหลักเข้า กทม.

วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพหานครและจังหวัดใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อทำงานแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนบางส่วนหยุดต่อเนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงขอกำชับให้ทุกจังหวัด และหน่วยงานทุกภาคส่วน ยังคงดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น

โดยเฝ้าระวังป้องกันและบังคับใช้กฎหมายจราจร และอำนวย ความสะดวกในจุดบริการประชาชน การตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดพักรถ เพื่อป้องปรามพฤติ กรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ยานพาหนะ โดยเฉพาะการขับรถเร็วและการง่วงหลับใน เนื่องจากผู้ขับขี่อาจพักผ่อนไม่เพียงพอหรือขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนรุนแรงได้

รวมถึงดูแลความปลอดภัยและบริหารจัดการจราจรในเส้นทางสายหลัก สายรอง เส้นทางเชื่อมต่อถนนสายหลักที่มุ่งสู่กรุงเทพฯ และถนนทางตรงที่มีระยะทางยาว เน้นคุมเข้มการขับรถเร็ว ป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับใน และการใช้อุปกรณ์นิรภัยตลอดการเดินทาง ตลอดจนเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลประชาชนบางส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ

ทั้งนี้จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงหกวันที่ผ่านมา พบว่า ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 83.32 เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของการบาดเจ็บและความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากการใช้ยานพาหนะดังกล่าว ขอให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด ขับขี่ด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทาง 

อ่านข่าว

กทม.ลดยอดซากตึก สตง.เหลือ 14 เมตร เร่งเข้าตัดเหล็ก เข้มฆ่าเชื้อน้ำทิ้งก่อนระบายออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง