ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สั่งสอบปมแรงงาน 250 คนถูกหลอกทำงาน ตปท.-สูญกว่า 12 ล้าน

สังคม
5 ม.ค. 68
12:43
906
Logo Thai PBS
สั่งสอบปมแรงงาน 250 คนถูกหลอกทำงาน ตปท.-สูญกว่า 12 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรณีแรงงานไทย 250 คน ถูกหลอกไปทำงานอิสราเอลและออสเตรเลีย อธิบดีกรมการจัดหางาน สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริง รวมถึงหาตัวผู้กระทำผิด หากพบเป็นบริษัทจัดหางานที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน เตรียมลงโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต

วันนี้ (5 ม.ค.2568) จากกรณีแรงงานไทยทั้งชายหญิงเกือบ 250 คน ที่เตรียมสัมภาระเพื่อเดินทางไปทำงานด้านการเกษตร ที่ประเทศออสเตรเลีย ต้องผิดหวัง เพราะเมื่อถึงเวลาเดินทาง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ม.ค.) กลับไม่มีตั๋วเครื่องบิน และไม่มีข้อมูลการเดินทาง แรงงานทั้งหมดถึงพากันเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา และสกลนคร

หนึ่งในผู้เสียหาย ชาว จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า มีคนชักชวนลูกชายไปทำงานด้านการเกษตรที่ออสเตรเลีย โดยบอกว่ารายได้ดี จึงตอบตกลงและโอนเงินไป 60,000 บาท ให้กับ น.ส.ออย ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนในการจัดหาคนงานไปทำงาน และนัดหมายเดินทางช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่มีการจองตั๋วเครื่องบิน เมื่อสอบถาม น.ส.ออย นายหน้า กลับได้รับคำตอบว่า ติดต่อคนที่รับงานและรับเงินไปไม่ได้

เช่นเดียวกับผู้เสียหายอีกคน จาก จ.สกลนคร เล่าว่า น้องชายถูกชักชวนให้ไปทำงานในฟาร์มที่ออสเตรเลีย จึงโอนเงินผ่าน น.ส.ออย จำนวน 120,000 บาท

ด้าน น.ส.ออยก็เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน อ้างว่าตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน หลังถูกรุ่นพี่ชื่อฟ้าชักชวนให้หาคนไปทำงานออสเตรเลีย โดย น.ส.ออยจะได้ค่าตอบแทน2,000 บาทต่อคน ส่วนคนที่จะไปทำงาน มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000–60,000 บาท หรือบางคน 100,000-150,000 บาท รวมผู้เสียหายทั้งหมดประมาณ 250 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท โดย น.ส.ออยนำเงินไปฝากผ่านเช็คให้กับ น.ส.ฟ้า

ขณะที่ ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บอกกับผู้เสียหายว่า ต้องแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่ ที่มีการโอนเงิน แต่กรณีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายสูง จึงแนะนำให้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม โดยในวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ผู้เสียหายจะเดินทางไปที่กองปราบปราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์

สั่งสอบปมแรงงานไทยถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

ข้อมูลการตรวจสอบเบื้องต้น ของผู้อำนวยการกองทะเบียน กรมการจัดหางาน เกี่ยวกับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานอิสราเอลและออสเตรเลีย ที่ตกค้างอยู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เบื้องต้น นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการถูกหลอกไปทำงาน เนื่องจากไม่พบข้อมูลการขออนุญาตและการอนุมัติจากกรมการจัดหางาน

ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแรงงานทั้งหมด ร่วมกับ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสืบหาผู้กระทำผิดต่อไป หากพบว่าเป็นบริษัทจัดหางานที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางานที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน จะมีมาตรการลงโทษ ตั้งแต่นำหลักประกันที่วางไว้ 5 ล้านบาท คืนคนงาน พักใช้ใบอนุญาต ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาต

โดยเน้นย้ำว่า ปัจจุบันยังไม่มีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ออสเตรเลีย ทั้งภาครัฐและบริษัทจัดหางานที่จดทะเบียน เนื่องจากผู้ที่จะเดินทางไปทำงานประเทศนี้ ต้องผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ ทั้งการทดสอบภาษาและทักษะอาชีพของออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ในระดับสูง โดยแรงงานที่เดินทางไปทำงาน ต้องแจ้งการเดินทางทุกครั้ง

ขณะที่ อิสราเอล ปัจจุบันมีการจัดส่งในรูปแบบ รัฐต่อรัฐในอาชีพด้านเกษตร ส่วนก่อสร้าง จัดส่งรูปแบบเอกชนต่อเอกชน ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานเท่านั้น

น่าเชื่อว่าถูกหลอก ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีข้อมูลขออนุมัติจากกรมการจัดหางาน อิสราเอล อาชีพเกษตร รัฐจัดส่งเท่านั้น ถ้าเป็นก่อสร้าง ผู้ประกอบการต้องได้รับใบอนุญาต ส่วนออสเตรเลียยังไม่ได้รับออเดอร์

อธิบดีกรมการจัดหางาน ยังเปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมการจัดหางานกำลังเปิดรับสมัครแรงงานชาย ไปทำงานภาคการเกษตรที่อิสราเอล ผ่านโครงการ “TIC” ครั้งที่ 18 เน้นทำงานในพื้นที่ปลอดภัย โดยมีระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาจ้าง 2 ปี ต่อได้ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน คนหางานจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,880 เชเกลอิสราเอล หรือ ประมาณ 52,920 บาท

สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครงานครั้งนี้ มีดังนี้

1.เพศชาย สัญชาติไทย
2.พ้นภาระการรับราชการทหาร
3.อายุ 23 – 39 ปี (เกิดระหว่างวันที่ 4 ม.ค.2529 – 8 ม.ค.2545)
4.ไม่มีประวัติอาชญากรรม ประวัติการใช้ยาเสพติด และติดแอลกอฮอล์
5.ไม่เคยทำงานในประเทศอิสราเอล ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือบิดาและมารดาพำนักอยู่ในประเทศอิสราเอล
6.สุขภาพแข็งแรง ตาไม่บอดสี ไม่เป็นโรคติดต่อ ไม่เสพสารเสพติด หรือเสพติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
7.ต้องมีประสบการณ์ทำงานภาคการเกษตร

ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและสมัครทางเว็บไซต์ toea.doe.go.th ไปจนถึงวันที่ 8 ม.ค.นี้ และศึกษารายละเอียดการสมัครกำหนดการและวิธีการรับสมัครได้ที่เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หัวข้อ “ข่าวประกาศรับสมัคร” หรือ Facebook : กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ

กรณีผู้สมัครไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดหรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อดำเนินการสมัครให้ โดยหากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ทางโทรศัพท์หมายเลข 02-245-0978 และ 08-0061-6576 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

อ่านข่าว :

ตรุษจีนนี้ รัฐบาลแจก 10,000 "กลุ่มผู้สูงวัย" รับเงินผ่านพร้อมเพย์

ยกเลิก100% “ทรงผมนักเรียน” ให้สิทธิเสรีผู้เรียน ไม่ระบุความยาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง