ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“จิตรวรรณ” พ่ายเก๋าเพื่อไทย บารมี “ทักษิณ” คุมท้องถิ่น-ระดับชาติครบ

การเมือง
23 ธ.ค. 67
16:48
204
Logo Thai PBS
“จิตรวรรณ” พ่ายเก๋าเพื่อไทย บารมี “ทักษิณ” คุมท้องถิ่น-ระดับชาติครบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การคว้าชัยของนายกานต์ กัลปฺตินันท์ บ้านใหญ่กัลป์ตินันท์ แห่งอุบลราชธานี แบบนำโด่งม้วนเดียวจบ หักปากกาเซียนการเมืองไม่น้อย

ด้วยส่วนหนึ่งที่ฟันธงว่า “เจ๊โรงแป้งมัน” นางจิตรวรรณ หวังศุภภิจโกศล มีโอกาสมากกว่าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนฐานเสียง และพันธมิตรทางการเมือง ที่เหนียวแน่นของ พี่น้อง เกรียง-กานต์ กัลป์ตินันท์ ที่สามารถประสานบ้านใหญ่หลังอื่น ๆ ได้เหนือกว่า

ประสานได้ทั้งบ้านใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน บ้านใหญ่ค่ายสีฟ้า และบ้านใหญ่พรรคเพื่อไทย หลังอื่น ๆ โดยเฉพาะ อดีต สส.คนดังของพรรค ที่โดนหักหน้าสอบตกในการเลือกตั้ง ปี 2566 ทั้ง “กุ่ย” นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ และนายสมคิด เชื้อคง ยิ่งในพื้นที่ของนายชูวิทย์ นายกานต์ชนะมาดามกบขาด เสมือนเป็นการถอนแค้นคืน

แม้ค่ายโรงแป้งมันจะพยายามประสานบ้านใหญ่ และพันธมิตรที่เป็นอริกับพรรคเพื่อไทยมาช่วยเต็มที่ รวมทั้งบ้านใหญ่ “โภคกุลกานนท์” ที่แพ้นายกานต์ ในการเลือกนายก อบจ.ปี 2563 แต่ถือว่า ยังห่างชั้น เพราะการเมืองท้องถิ่น ต่างจากการเมืองระดับชาติชัดเจน

หากพันธมิตรที่มีฐานเสียงมากเท่าไหร่ โอกาสชนะย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น ยังไม่นับกลไกภาครัฐ และความได้เปรียบทางการเมือง ในฐานะผู้สมัครจากพรรคแกนนำรัฐบาล

ทั้งยังได้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ลงพื้นที่ขึ้นเวทีหาเสียงให้ ดังที่นายกานต์ได้กล่าวยอมรับหลังคว้าชัยว่า “นายทักษิณมีส่วนสำคัญในชัยชนะหนนี้”

ที่สำคัญเท่ากับยืนยันคำกล่าวที่ว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” เพราะเป็นเรื่องคอนเนคชั่น และประสานประโยชน์ลงตัว เรื่องเกรงอกเกรงใจต้องถนอมน้ำใจ “เสี่ยแป้งมันผู้พี่” กำนันป้อ หรือ นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เขยของ “มาดามกบ” จึงเป็นคนละเรื่องกับการเลือกตั้ง

และนายทักษิณ ได้มัดใจ “เสี่ยป้อ” ไว้แล้ว ในการประกาศให้ “มาดามหน่อย” ยลดา หวังศุภกิจโกศล ลงรักษาเก้าอี้นายก อบจ.นครราชสีมา อีกหนึ่งสมัย ในนามของพรรคเพื่อไทยชัดเจนในวันงาน ISAN NEXT

ถือเป็นความเก๋าเกมของนายทักษิณ ที่คว่ำหวอดและเปี่ยมบารมี หาตัวจับยาก พลิกฟื้น “ระบอบทักษิณ” ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง แม้ระดับพื้นที่ผู้สมัครต่างแข่งขันกันไป แต่ในระดับ “บิ๊ก” บ้านใหญ่ระดับประเทศ ก็จับมือร่วมกันประสานประโยชน์เป็นเรื่องๆ ได้

แม้แต่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพิ่งจะกระแหนะหนะแหนเป็นอีแอบ ไม่กี่วันถัดมาก็ปฏิเสธ แถมยังไปออกรอบตีกอล์ฟโชว์สื่อ ยุติข่าวรอยร้าวระหว่าง 2 พรรคไปแล้วที่สนามกอล์ฟใหญ่ จ.ปทุมธานี เมื่อวันก่อน

ในทางปฏิบัติ ไม่เพียงนายทักษิณจะกลับสู่เส้นทางโกอินเตอร์อีกรอบ ในฐานะที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลย์ ในฐานะประธานอาเซียนคนใหม่ แต่บทบาทในประเทศ ยิ่งชัดเจนแบบไม่ต้องคอยหลบฉากอยู่ข้างหลัง เหมือนบางช่วงที่ผ่านมา

ด้วยล่าสุด กำลังเนื้อหอมในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ขึ้นไปเปิดปราศรัย 4 เวทีใหญ่ให้ นายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร หรือ (อดีต) สว.ก๊อง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร รักษาเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ อีก 1 สมัย 2 วันซ้อน (23-24 ธ.ค.) ไล่เลี่ยกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ไปช่วยหาเสียงให้พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” ผู้สมัครจากพรรคประชาชน

ด้วยค่าจ้างเหลือจะเชื่อ วันละ 340 บาท หากฟังจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ คนที่เคยยืนอยู่ข้างๆ นายทักษิณ มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย

ถือเป็นพันธกิจสำคัญที่สุด บนถนนเลือกตั้งนายก อบจ.สำหรับนายทักษิณ หากทำสำเร็จ จะเป็นการกู้หน้าพรรคเพื่อไทย ที่พ่ายแพ้ย่อยยับให้กับพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 เพราะ จ.เชียงใหม่ เป็นทั้งฐานที่มั่น จุดเริ่มต้น และเป็นเมืองหลวงของพรรคมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย

ท่ามกลางการแสดงท่าทีจะวางเฉยของตระกูลบุรณุปกรณ์ บ้านใหญ่การเมืองท้องถิ่นจ .เชียงใหม่ แต่ในทางปฏิบัติ จะวางเฉยจริงหรือช่วยใคร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยตระกูลนี้ ก็เคยร่วมงานช่วยเหลือนายทักษิณ มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เช่นกัน

หากนายทักษิณทำสำเร็จ ยังมีความหมายถึงการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ทั้งการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก คอยหนุนช่วยทายาททางการเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บนเส้นทางการเมืองต่อ ๆ ไปอย่างเต็มที่

จึงเป็นพันธกิจสำคัญของนายทักษิณ หาใช่ “อยู่บ้านเลี้ยงหลาน” ดังที่กล่าวอ้างตอนจะกลับประเทศไทยไม่

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : เงินสดไม่ขาดแน่ แบงก์รัฐ-พาณิชย์ สำรองรับปีใหม่กว่า 1.3 แสนล้าน

"ทนายวิฑูรย์" ไม่พร้อมสู้คดีให้ดิไอคอน ตัดพ้อไม่ได้รับความเป็นธรรม

นัดสุดท้าย! ลุ้น "บอร์ดค่าจ้าง" เคาะค่าแรง 400 บาทต่อวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง