ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) เปิดเผยว่า เป็น วันเหมายัน (อ่านว่า เห-มา-ยัน) หรือ Winter Solstice เป็นวันที่มีช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุด และมีช่วงเวลากลางคืนยาวนานที่สุดของปี เนื่องจากดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ผู้สังเกตบนโลกจะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้น และตกโดยเฉียงไปทางทิศใต้ ไม่ผ่านกลางศีรษะ
สำหรับคนไทย เรียกวันนี้ว่า "ตะวันอ้อมข้าว" เนื่องจาก เห็นเหมือนดวงตะวันอ้อมนาข้าวในแต่ละวัน ดวงอาทิตย์จะปรากฏอยู่ตำแหน่งที่ต่างกัน เปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศา ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ เคลื่อนที่จากจุดตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกลงมาทางใต้ สังเกตได้จากท้องฟ้าในช่วงนี้จะมืดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนมา ณ ตำแหน่งเฉียงไปทางทิศใต้มากที่สุดในวันเหมายันของแต่ละปี วันดังกล่าวจึงมีเวลากลางคืนที่ยาวนานที่สุด และมีเวลากลางวันที่สั้นที่สุด
สำหรับวันเหมายันปีนี้ ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 06.37 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 17.56 น. (เวลา ณ กรุงเทพฯ) มีช่วงเวลากลางวันเพียงประมาณ 11 ชั่วโมง 19 นาที นอกจากนี้ ยังนับเป็นวันย่างเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศทางซีกโลกใต้
ฤดูกาลบนโลกนั้น เกิดจากแกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีอุณภูมิต่างกัน รวมถึงระยะเวลากลางวันและกลางคืนก็ต่างกันด้วย เหตุนี้ทำให้เกิดฤดูกาลขึ้นบนโลกนั่นเอง จะสังเกตได้ว่าในฤดูร้อนดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้า ช่วงเวลากลางวันจะยาวนานกว่ากลางคืน แตกต่างกับฤดูหนาว ที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็ว และมีช่วงเวลากลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวัน
ปรากฏการณ์สำคัญเกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์
ในรอบ 1 ปี เกิดปรากฏการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ ดังนี้
1. วันวสันตวิษุวัต (วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ-วัด) (Vernal Equinox) ในปี 2567 ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนพอดี นับเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของประเทศในซีกโลกใต้
2. วันครีษมายัน (ครีด-สะ-มา-ยัน) (Summer Solstice) ในปี 2567 ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน เป็นวันที่ ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปี สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ นับเป็นวันที่ เข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูหนาว
3. วันศารทวิษุวัต (สาด-ทะ-วิ-สุ-วัด) (Autumnal Equinox) ในปี 2567 ตรงกับวันที่ 22 กันยายน เป็นวันที่ ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้มีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน นับเป็นวันเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศในซีกโลกใต้
4. วันเหมายัน (เห-มา-ยัน) (Winter Solstice) ในปี 2567 ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า "ตะวันอ้อมข้าว" นับเป็นวันเปลี่ยนฤดูกาลย่างเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศทางซีกโลกเหนือ และย่างเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศทางซีกโลกใต้
อ่านข่าว ปิดด่านไทย-เมียนมา อหิวาตกโรคระบาดเมียวดี ป่วย 300 ตาย 2 คน
22 ธ.ค.67 "วันเหมายัน" กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี ทำไมถึงเรียก "ตะวันอ้อมข้าว"
ทอ.ส่ง F-16 บินพิสูจน์-สกัดอากาศยานไม่ทราบฝ่าย ชายแดนไทย-เมียนมา