ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

มติ ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน 12 จนท.รัฐเอื้อ "ทักษิณ" นอน รพ.ตำรวจ

การเมือง
16 ธ.ค. 67
20:25
288
Logo Thai PBS
มติ ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน 12 จนท.รัฐเอื้อ "ทักษิณ" นอน รพ.ตำรวจ
ป.ป.ช.มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวน จนท.รัฐสังกัดกรมราชทัณฑ์และ รพ.ตำรวจ รวม 12 คน กรณีส่งตัว "ทักษิณ" ไปรักษา รพ.ตำรวจ โดยไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ

วันนี้ (16 ธ.ค.2567) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณากรณีกล่าวหานายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

กรณีส่งตัวผู้ต้องขัง นายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ และให้นายทักษิณ ชินวัตร อยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอ จึงมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 51

ให้ดำเนินการไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 12 คน

ทั้งนี้ หากในชั้นไต่สวนพบว่ามีบุคคลอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้ดำเนินการไต่สวนกับบุคคลดังกล่าวต่อไป

ป.ป.ช.ตีตกคำร้องสอบ "เศรษฐา" ตั้ง "ต่อศักดิ์" เป็น ผบ.ตร.

ส่วนกรณีกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กับพวก ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า การดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีการพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส แต่กฎหมายกำหนดไว้แต่เพียงว่าให้คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม

เมื่อผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ใช้ประกอบในขณะพิจารณาคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งเป็นบุคคลมีคุณสมบัติครบถ้วน และอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นตามนัยมาตรา 77 (1) ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และได้รับฟังความคิดเห็นจาก ก.ตร.ทุกคน และไม่มีพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานใดบ่งชี้ได้ว่ามีการสั่งการให้มีการคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.

การใช้ดุลพินิจของผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก จึงไม่พอที่จะรับฟังได้ว่ามีเจตนาทุจริตเพื่อประโยชน์ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จึงมีมติไม่รับเรื่องกล่าวหาไว้พิจารณาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 49 ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. 2561 ข้อ 45 (1)

อ่านข่าว

ป.ป.ช.มีมติสอบ "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์-พวก" ปมรับเงินเว็บพนัน

"อันวาร์" ดึง "ทักษิณ" ขึ้นแท่นที่ปรึกษา ขณะเตรียมขึ้น ปธ.อาเซียน

เหนือกว่าซัดพรรคร่วม “อีแอบ” เพื่อไทยเตรียมดิสเครดิตผลงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง