วันนี้ (16 ธ.ค.2567) ตำรวจ สน.พระราชวัง ติดตามจับกุมคนขับรถจักรยานยนต์รับส่งผ่านแอปพลิเคชันแห่งหนึ่ง หลังก่อเหตุลักทรัพย์ของนักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซีย ที่เรียกใช้บริการบริเวณถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร ช่วงบ่ายของวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันแห่งหนึ่ง โดยรับนักท่องเที่ยวที่กดใช้บริการตามปกติ แต่เมื่อมาถึงพบนักท่องเที่ยวยืนนับเงินอยู่บริเวณจุดนัดหมาย จึงเกิดความโลภ ขับรถเลยจุดนัดหมายไป และกดยกเลิกให้บริการบนแอปพลิเคชัน วางแผนนำหน้ากากอนามัยไปปิดแผ่นป้ายทะเบียนไว้
เมื่อนักท่องเที่ยวกดหาคนให้บริการคนอื่น จึงทำทีเข้าไปแสดงตัวว่าเป็นคนให้บริการ และรับนักท่องเที่ยวขึ้นรถ แต่ก่อนขึ้นรถได้ออกอุบายให้นักท่องเที่ยวนำกระเป๋าสะพายมาไว้บริเวณที่พักเท้าหน้ารถอ้างว่าจะถูกวิ่งราวทรัพย์ เมื่อนักท่องเที่ยวหลงเชื่อจึงขับรถออกไป เพื่อไปส่งนักท่องเที่ยวที่วัดสระเกศ ซึ่งอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน แต่คนก่อเหตุขับวน ไม่ไปส่งถึงที่หมาย ก่อนฉวยโอกาสฉกเอาเงินสดในกระเป๋านักท่องเที่ยวไปเป็นจำนวน 15,000 บาท และวนพากลับมาส่งที่เดิม อ้างว่ามารับผิดคน
ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจยังพบอีกว่าหลักเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปเปลี่ยนรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งที่บ้านเพื่อน เนื่องจากไปยืมรถเพื่อนมาใช้ก่อเหตุ และสับเปลี่ยนรถอีกคันหนึ่งซึ่งเป็นรถของตัวเองขับออกมาแทน และได้แขวนตุ๊กตาปิดหมายเลขทะเบียนเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับ
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ตำรวจสามารถระบุเลขทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุได้ชัดเจน กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง สะกดรอยตามจนพบรถต้องสงสัย และผู้ขับขี่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายวันที่เกิดเหตุ มาจอดอยู่บนถนนท้ายวัง เขตพระนคร ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงออกอุบายให้ตำรวจฝ่ายจราจร เข้าจับตาม พ.ร.บ.จราจร จงใจปกปิด ปิดบัง อำพราง แผ่นป้ายทะเบียนรถ โดยเชิญตัวมาเปรียบเทียบปรับที่ สน.พระราชวัง ก่อนซ้อนแผนจับ ทราบชื่อคือนายบรรพต อายุ 29 ปี ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุลักทรัพย์ชาวต่างชาติจริง อ้างว่าก่อเหตุเป็นครั้งแรก ส่วนเงินที่ได้มานั้นนำไปแทงสนุกเกอร์เดิมพันกับกลุ่มเพื่อน
ภายหลังการจับกุม ตำรวจได้เชิญตัว น.ส.แอนนา นักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซีย มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อระบุตัวผู้ก่อเหตุ และให้ปากคำเพิ่มเติม โดยตำรวจได้ติดต่อประสานกับทางพ่อของนายบรรพต ทราบถึงพฤติกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยพ่อนายบรรพตยืนยันว่าจะนำรถจักรยานยนต์ไปจำนำ เพื่อนำเงินที่นายบรรพตเอาไปมาคืนให้กับผู้เสียหาย
น.ส.แอนนา เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ดีใจที่ตำรวจติดตามจับผู้ก่อเหตุและพยายามหาเงินมาคืนให้ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ขอเหมารวมคนไทยทั้งหมด หากมีโอกาสก็พร้อมจะกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีก แต่อาจต้องระวังตัวให้มากขึ้น
สำหรับนายบรรพต ผู้ก่อเหตถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาข้อลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท นอกจากนี้พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ และข้อหาอื่น ๆ มาแล้ว 2 คดี
ผกก.สน.พระราชวัง เปิดเผยอีกว่า ในพื้นที่ สน.พระราชวัง เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ได้วางมาตรการในการป้องกันทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุอย่างเข้มงวด เนื่องจากพฤติกรรมในลักษณะนี้ไม่ได้ส่งผลเสียต่อบุคคลเพียงอย่างเดียว ยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ การติดตามจับผู้กระทำความผิดและนำทรัพย์สินคืนให้กับผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ และดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
อ่านข่าว : น้ำป่าเทือกเขาหลวงไหลบ่าเข้าเมืองนครศรีธรรมราช