วันนี้ (14 ธ.ค.2567) การแข่งขันฟุตบอล อาเซียนคัพ 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A ไทยเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถานพบกับ มาเลเซีย
ก่อนหน้านี้ ทีมชาติไทย แข่ง 1 นัด โดยทีมชาติไทยชนะ ติมอร์ เลสเต ไป 10 - 0 ประตู ขณะที่ มาเลเซีย แข่ง 2 นัด นัดแรก มาเลเซีย เสมอ กัมพูชา 2-2 ประตู และ นัดที่ 2 มาเลเซีย ชนะ ติมอร์ เลสเต 3-2 ประตู
ผู้เล่น 11 คนแรกทีมชาติไทย
ผลงานการเจอกัน 17 นัดในศึกอาเซียนคัพ เป็นไทยที่เหนือกว่าเอาชนะได้ 8 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้ มาเลเซีย 4 นัด
ส่วน 5 เกมหลังสุดที่เผชิญหน้ากัน ทัพช้างศึก เอาชนะได้ 1 นัด เสมอ 1 นัด และ แพ้ 3 นัด โดยชัยชนะนัดเดียวของ ไทย คือ เกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ 3-0 ในศึกชิงแชมป์อาเซียน เมื่อปี 2022
ขณะที่ 11 ผู้เล่น ทีมชาติไทย 1. ปฏิวัติ คำไหม (GK), 4. โจนาธาร เข็มดี, 5. เฉลิมศักดิ์ อักขี, 8. พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (C), 9. 10. ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, 12. นิโคลัส มิคเกลสัน, 16. อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ, 18. วีระเทพ ป้อมพันธุ์, 24. อภิสิทธิ์ โสรฎา, 25. เสกสรรค์ ราตรี
เริ่มเกมไทยพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่มาเลเซีย แต่มาเลเซีย ตั้งรับเหนียวแน่นและใช้การโต้กลับ ทั้ง 2 ทีมยังทำอะไรกันไม่ได้
ผ่านครึ่งชั่วโมง ทีมชาติไทย ยังเจาะมาเลเซีย ไม่เข้าสกอร์ยัง 0-0
นิโคลัส มิคเกลสัน
จบครึ่งแรก ทีมชาติไทย เสมอ มาเลเซีย 0-0 ประตู
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 48 มาเลเซีย ได้โอกาสบุกจากลูกเตะมุม แต่ไทยเคลียร์ออกไปได้
นาทีที่ 56 ไทยได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ผู้รักษาประตูมาเลเซีย จ่ายบอลไปติด ศุภณัฏฐ์ จากนั้น ศุภณัฏฐ์ จ่ายคืนมาให้ พาตริก กุสตาฟส์สัน ได้โอกาสยิงเข้าประตูเข้าไป ไทยขึ้นนำ 1-0 ประตู
นาทีที่ 67 มาเลเซีย ได้โอกาสยิง แต่ ปฏิวัติ ปัดออกไปได้ ไทยยังนำ มาเลเซีย 1-0 ประตู
จบเกม ไทย ชนะ มาเลเซีย 1-0 ประตู ไทย เก็บเพิ่ม 3 แต้ม รวมแข่ง 2 นัด มี 6 แต้ม ไทยขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่ม A ขณะที่อันดับ 2 สิงคโปร์ มี 6 แต้ม แต่ไทยลูกได้-เสีย ดีกว่า อันดับ 3 มาเลเซีย มี 4 แต้ม และอันดับ 4 กัมพูชา มี 1 แต้ม
นัดที่ 3 วันที่ 17 ธ.ค.2567 สิงคโปร์ เปิดบ้านพบ ทีมชาติไทย เวลา 19.30 น.ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ นัดที่ 4 วันที่ 20 ธ.ค.2567 ทีมชาติไทย เปิดบ้านรับการมาเยือนของ กัมพูชา เวลา 20.00 น.ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
อ่านข่าว : ชมสด 2 ทุ่มคืนนี้ "ทีมชาติไทย" เปิดบ้านดวลมาเลเซีย ศึกอาเซียนคัพ
ที่สุดแห่งปี แวดวงกีฬาไทย ปี 67
เปิดชื่อ 26 แข้งทีมชาติไทย ชุดป้องกันแชมป์อาเซียนคัพ 2024