วันนี้ (13 ธ.ค.2567) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยถึงกรณี น.ส.ชาล็อต ออสติน ถูกเครือข่ายคอลเซนเตอร์หลอกเอาเงินไปกว่า 4 ล้านบาท ว่า พนักงานสอบสวนได้ขอศาลออกหมายจับบัญชีม้าแล้ว 1 คน โดยก่อนวันที่ น.ส.ชาล็อต จะถูกเครือข่ายหลอกเอาเงิน การสืบสวนของตำรวจพบว่าในวันที่ 6-7 ธ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ปาริชาติ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับและเป็นเจ้าของบัญชีม้า ได้เดินทางไป จ.สระแก้ว และข้ามชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน
พบหลักฐานว่ามีการสแกนใบหน้าเพื่อรับโอนเงินไปยังบัญชีม้าอื่นๆ ในระหว่างที่ น.ส.ชาล็อต โอนเงินเข้าบัญชี ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการหลอกเอาเงินแล้ว ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยและเข้าที่พักอาศัย ซึ่งขณะนี้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
อ่านข่าว : ออกหมายจับ "บัญชีม้า" หลอกเอาเงิน "ชาล็อต" 4 ล้าน
ส่วนการกระทำความผิดของบัญชีม้าที่พบว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายคอลเซนเตอร์ ตามหลักฐานที่ปรากฏ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งถือว่าเป็นข้อหาหนัก แตกต่างจากข้อหาที่บุคคลครอบครองบัญชีม้าโดยทั่วไป
นอกจากนี้ได้อายัดบัญชีธนาคารอีกหลายบัญชี โดยหลักแล้วมีอยู่ 2 ช่องทางที่จะนำเงินออกนอกระบบบัญชีธนาคาร คือ การกดเงินสดตามตู้กดเงิน และเปลี่ยนแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างวิเคราะห์และติดตามเส้นทางการเงิน เพื่อติดตามทรัพย์สินคืนมาให้กับผู้เสียหาย
ส่วนชาย 2 คนที่ปรากฏในคลิปวิดีโอที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหายนั้น ได้สั่งให้กองวิเคราะห์ข้อมูลของตำรวจไซเบอร์เร่งสืบสวนพยานหลักฐานจากใบหน้าและระบบเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อระบุตัวบุคคลนำไปสู่การออกมาจับ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มาหลอกลวงจนเกิดความเสียหาย ส่วนประชาชนที่ถูกหลอกเงินไปแล้ว สามารถโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ที่หมายเลขสายด่วน 1441 เพื่ออายัดบัญชีและขอคำปรึกษาในการแจ้งความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าว
รวบนอมินีจีนเทาเปิดบริษัทฟอกเงินแก๊งคอลเซนเตอร์
แจ้ง 2 ข้อหา "สุนทร-พวก" คดียิง สจ.โต้ง เตรียมฝากขัง-ค้านประกัน