วันนี้ ( 11 ธ.ค.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากที่จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจีนจะใช้มาตรการทางการคลังในเชิงรุกมากขึ้น รวมทั้งใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปีหน้า รวมถึงธนาคารกลางจีนได้กลับมาซื้อทองเข้าสู่คลังสำรองในเดือนพ.ย. และความตึงเครียดในตะวันออกกลางจากความไม่สงบของซีเรีย
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 2.7% จากที่เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี
วิเคราะห์ราคาทอง มีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง และสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้น โดย MACD >0 และเกิด Bullish MACD นอกจากนี้ได้เกิดสัญญาณซื้อ (Buy signal) จากทั้ง MACD และ Modified Stochastic คาดราคาทองคำมีโอกาสทะลุ 2,700 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%แนวรับ : 42,700 และ 42,600 บาท แนวต้าน : 43,100 และ 43,200 บาท คาดราคาทองคำแท่งจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น แม้เงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่อง ทั้งนี้หากราคาทองคำแท่งสามารถทะลุผ่านเส้น SMA50 และ SMA20 ที่ 43,050 บาทขึ้นไปได้ อาจเกิดสัญญาณซื้อ (Buy signal) แนะนำทยอยเข้าซื้อทองคำ
สำหรับราคาทองบวก 500 บาท (บวก 50 ครั้งที่2) ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 43,100 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 43,000 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 43,600 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 42,220.60บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,702 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 33.73 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,888บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 11,275บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 22,050 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 43,600 บาท ภาพรวมราคาทอง 12 เดือน ( ม.ค.-11ธ.ค.) อยู่ที่ 9,450 บาท สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการทำสถิติไว้ตั้งแต่ปี2554
อ่านข่าว:
จีน หวนซื้อ “ทองคำ” ดันราคาขยับ “ทองรูปพรรณ” ขายออก 43,100 บาท