กลุ่มผู้ประท้วงในชานกรุงดามัสกัสของซีเรีย ช่วยกันโค่นรูปปั้นของ ฮาเฟซ อัล-อัสซาด อดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ และบิดาของบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธาธิบดีซีเรียคนปัจจุบัน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและปรบมือ โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้โค่นล้มผู้นำคนปัจจุบัน และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอพยพออกจากพื้นที่
ผู้ประท้วงชาวซีเรียล้มรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด ในเมืองจารามานา ชานกรุงดามัสกัสทางตอนใต้ รัฐบาลซีเรีย ภาพนี้ถ่ายจากวิดีโอ ที่โพสต์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2024
ขณะที่เมื่อช่วงเช้ามืด วันนี้ 8 ธ.ค.2567 (ตามเวลาท้องถิ่น) กลุ่มกบฏในซีเรียเปิดเพลงและรุมเหยียบโปสเตอร์รูปหน้าผู้นำคนปัจจุบัน เพื่อฉลองที่สามารถเข้ายึดเมืองฮอมส์ ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ หลังจากกลุ่มกบฏเดินทัพยึดไปแล้วหลายเมืองก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงเมืองอเลปโป และเมืองฮามา
กลุ่มกบฏซีเรียที่นำโดยกลุ่มอิสลามิสต์ยิงปืนขึ้นฟ้าและชูสัญลักษณ์วีเพื่อชัยชนะหลังจากยึดเมืองโฮมส์ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางได้สำเร็จในช่วงเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 2024
ชายชาวอิหร่านกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่มีข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2024 ข้างแผงขายหนังสือพิมพ์ในกรุงเตหะราน
เมืองฮอมส์เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของซีเรีย และเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมระหว่างกรุงดามัสกัสกับพื้นที่ชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญของตระกูลอัสซาด ที่ปกครองซีเรียตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมากลุ่มกบฏระบุว่าเริ่มเคลื่อนทัพเข้าสู่กรุงดามัสกัส และล่าสุดประกาศว่ายึดครองเมืองหลวงเอาไว้ได้ แล้ว พร้อมทั้งประกาศปลดปล่อยเมืองหลวงจากการปกครองของผู้นำคนปัจจุบัน
กบฏชาวซีเรียและพลเรือนรวมตัวกัน ที่เมืองโฮมส์ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2024
ผู้นำซีเรียหนีออกนอกประเทศหลังกลุ่มกบฏรุกคืบเมืองหลวง
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงซีเรียว่า บาชาร์ อัล-อัสซาด เดินทางออกจากกรุงดามัสกัสโดยเครื่องบิน แต่ยังไม่ทราบจุดหมายปลายทางแน่ชัด ขณะที่กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย หรือ เอสโอเอชอาร์ ระบุว่า ผู้นำซีเรียหลบหนีออกจากประเทศแล้ว
ภาพประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียในสภาพกรอบแตกร้าวที่สำนักงานความมั่นคงทางการเมืองของรัฐบาลซีเรีย ชานกรุงฮามา ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลาง หลังจากกองกำลังต่อต้านรัฐบาลเข้ายึดพื้นที่ได้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2024
เอสโอเอชอาร์ เปิดเผยด้วยว่า สถานการณ์รุนแรงในซีเรียครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 826 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 111 คน และประชาชนอีกกว่า 370,000 คนต้องพลัดถิ่น
หลายชาติกังวล-อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากซีเรีย
ขณะที่แหล่งข่าวด้านการทูต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตอิรักในซีเรีย ได้อพยพออกจากกรุงดามัสกัสไปยังเลบานอนแล้ว หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านที่ได้อพยพออกจากกรุงดามัสกัสเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะมีรายงานการโจมตีสถานทูตโดยบุคคลไม่ทราบฝ่าย
ขณะที่หลายชาติออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรีย ซึ่งรวมถึงกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งสหรัฐฯ ซึ่งทำเนียบขาว ระบุว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังติดตามพัฒนาการณ์ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
อ่านข่าว : พรรครัฐบาลให้คำมั่น "ปธน.เกาหลีใต้" จะลาออก-ไม่แทรกแซง