เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยคลังในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนจะขยับขึ้นไปเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ มีภารกิจสำคัญ คือขับเคลื่อนนโยบายรับจำนำข้าว ระบายข้าวจีทูจี และระบายมันเส้น หรือมันสำปะหลัง แบบจีทูจี กับรัฐบาลจีน
สะท้อนความสัมพันธ์แนบแน่น กับคนในตระกูลชินวัตรโดยตรง แม้จะมีข่าววงในว่า เสียความรู้สึกและไม่พอใจอย่างยิ่ง จากโครงการระบายข้าวจีทูจี ล็อตแรก เมื่อครั้งถูกชี้มูลความผิด และเรื่องไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง นัดฟังคำพิพากษา 25 ส.ค.2560 เพราะนายบุญทรง เดินทางไปตามนัด ไม่ทราบเรื่องระแคะระคายอะไรมาก่อน
กระทั่งใกล้ถึงเวลาคำพิพากษาของศาล กลับไม่ปรากฏเงาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แม้จะมีข้อมูลวงในว่า นายบุญทรงโทรศัพท์หา น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยตรง และได้รับคำตอบว่า “กำลังเดินทางใกล้ถึงแล้ว”
ทั้งที่ความจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกนอกประเทศผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนหน้านั้น 1 วัน ปล่อยให้นายบุญทรง และจำเลยคนอื่น ๆ ต้องเผชิญชะตากรรมติดคุก สำหรับนายบุญทรงเสมือนโดยตบหน้าฉาดใหญ่
เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีฟังคำพิพากษาของศาล รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนั้น ส่งสัญญาณเดินหน้าต่อ เรื่องระบายข้าวจีทูจี เฟส 2 ตามมา
ซึ่งครั้งนี้ดูจะสั่นสะเทือนวงการเมืองไม่น้อยไปกว่าเฟสแรก โดยมีข่าวว่า ป.ป.ช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำและเจรจาในเชิงลึก กับนายบุญทรงในเรือนจำ และอาจมีข้อตกลงลับบางประการ
อาทิ กันนายบุญทรงไว้เป็นพยาน และการปูทางให้ทายาทของนายบุญทรง เดินสู่เวทีทางการเมืองแทนผู้เป็นพ่อ โดยพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสนับสนุน และลือถึงขั้นว่า นายบุญทรงมีหลักฐานสำคัญ ที่สามารถยืนยันได้ว่า มีคนอื่นสั่งการเขาอีกต่อหนึ่ง
จึงเกิดผลตามมา คือ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวน ระบายข้าวจีทูจี ภาค 2 ต่อ และต่อมาไม่เพียงมีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาเหมือนในภาคแรกเท่านั้น แต่ยังมีชื่อ นายทักษิณ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่ชายและพี่สาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมอยู่ด้วย
นำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกูรู และคนวงในวงนอกการเมืองว่า เป็น “ดีลลับ” ที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะในเวลาต่อมา 19 ธ.ค.2565 ที่ประชุมป.ป.ช. ชี้มูลลงมติ 6 ต่อ 1 เสียง ตีตกข้อกล่าวหา ทั้งนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา เหลือเพียงคนอื่นบางส่วน เช่น “หมอโด่ง” นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ที่เป็นโดนตัวการหลักและโดนชี้มูลร่วมกับผู้ที่ถูกชี้มูลเพียงส่วนหนึ่ง
ขณะที่โครงการระบายมันเส้น หรือมันสำปะหลัง แบบจีทูจี ที่มีรูปแบบคล้ายๆ กัน ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ และมีนายบุญทรง นั่งเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ คืออุปโลกน์บริษัทที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่บริษัทที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนจริง ดังที่กล่าวอ้าง จึงเป็นที่มาของวลีว่า “จีทูเก๊”
ถึงขณะนี้ คดีระบายมันเส้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีอะไรคืบหน้านัก ต่างจากคดีระบายมันเส้นในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีความต่อเนื่อง และปรากฏเป็นข่าวคราวเป็นระยะ ๆ แต่ในทางกลับกัน
ส่งผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีคดีความอื่นเพิ่มเติม นอกจากระบายข้าวจีทูจีเฟสแรก ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี โทษจำคุกรวม ต่ำกว่านายทักษิณที่โดนไป 8 ปี ทำให้เชื่อกันว่า การเตรียมกลับประเทศไทย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่นายทักษิณระบุไทม์ไลน์ว่า เป็นช่วงสงกรานต์ปี 2568 น่าจะไม่ต่างจากนายทักษิณ กรณีการรับโทษในคดี
ขณะเดียวกัน นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายนายบุญทรง ก็ได้ก้าวเข้าสู่ปากทางของการเป็นนักการเมือง ในการเลือกตั้งส.ส.ปี 2562 ได้ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และจวนเจียนจะได้เป็น สส. รอมร่อ หลังการลาออกจากพรรคพลังประชารัฐของ “มาดามเดียร์” น.ส.วทันยา บุนนาค เมื่อปี 2565
แต่ปรากฏว่า นายเดชณัฐวิทย์ ซึ่งอยู่ในคิวถัดไป จะได้เป็น สส.แทน กลับลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไปก่อนหน้านั้นเสียก่อน ท่ามกลางกระแสวงในว่า เป็นเพราะไม่พอใจที่ “ดีลลับ” หรือการเจรจากับผู้เป็นพ่อของผู้มีอำนาจในขณะนั้น ไม่ได้เป็นไปตามคำสัญญา
แต่กระนั้น ความเชื่อของกูรูและคนวงในการเมือง ยังเห็นตรงกันว่า นายบุญทรง คือผู้กุความลับสำคัญ ที่เป็นข้อเท็จจริงไว้ ไม่ว่าจะโครงการรับจำนำข้าว หรือระบายข้าวจีทูจี และระบายมันเส้นแบบจีทูจี ก็ยังคงอยู่ ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะดีลลับการเจรจาเกิดล่มเสียก่อน
ด้านหนึ่งอาจมีอะไรเหนี่ยวรั้ง หรือนายบุญทรง อยู่วงการการเมืองมานาน ย่อมรู้กลเม็ดและลูกล่อลูกชนทางการเมืองดีว่า อาจเชื่อถือไม่ได้ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือได้รับสัญญาณเตือนว่า ผู้มีอำนาจที่เข้ามาด้วยวิธีการพิเศษนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งก็ต้องลงจากหลังเสือไป แต่นักการเมือง หรือนักเลือกตั้ง ยังต้องวนเวียนอยู่ในวัฏจักรการเมืองต่อไป อาจมีการหมุนเวียนขึ้นสู่อำนาจ จึงสามารถเปลี่ยนแปลงพลิกผันได้ตลอด
ยิ่งเมื่อ “นายใหญ่” กลับมา และสุดท้ายพ้นโทษแล้ว โดยไม่ได้ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว จึงมีสารพัดข่าวลือวงในอีกครั้งว่า มีความพยายามติดต่อและเจรจากับนายบุญทรงไม่จากจากช่วงรัฐบาล คสช. เพราะ “ความลับ” บางอย่างที่เก็บไว้ในมือ อาจมีผลต่อการเดินทางกลับประเทศไทยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้
จริงไม่จริงไม่รู้ แต่การเมืองไทย มีอะไรซับซ้อนและลึกซึ้งกว่าที่คนโดยทั่วไปจะรับรู้และเข้าใจได้
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ระทึก! ถนนเบตงทรุดตัว 50 ม.จุดทางขึ้นสถานีขนส่งปิดใช้ชั่วคราว
ครม.เคาะเยียวยาพื้นที่น้ำท่วมใต้ ครัวเรือนละ 9,000 บาท
เลขา ป.ป.ช.เผยยังไม่ชี้มูลความผิด "คดีชั้น 14" - อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล