2 เดือน (1 ต.ค. 2567 – 21 พ.ย. 2567) กรมศุลกากร ยึดกัญชา ช่อดอกกัญชา ต้นกัญชา น้ำมันกัญชา ยางกัญชาและเมล็ดกัญชา เตรียมลอบส่งออกไปต่างประเทศ ปริมาณรวมกัน 764 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 7.6 ล้านบาท ทั้งหมด 105 คดี
สิ่งนี้อาจสอดคล้องกับการที่ หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร หรือ NCA ส่งจดหมายเตือนมายังประเทศไทยผ่านสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ระบุว่า ไทยอาจกำลังกลายเป็นผู้ส่งออกกัญชาผิดกฎหมายไปยังสหราชอาณาจักรผ่านทางอากาศรายใหญ่
จับสัญญาณกลุ่ม ‘ฟรีวีซ่า’ ลอบขนกัญชาไป UK
ต้นเดือนที่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งย่านคลองเตย และห้องพักในคอนโดมิเนียม ย่านพระโขนง กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ยึดของกลาง ได้แก่ กัญชาชนิดแห้ง จำนวน 36 กก. ถูกบรรจุในถุงสุญญากาศพร้อมอุปกรณ์บรรจุหีบห่อ และเอกสารเตรียมส่งออกไปยังประเทศอังกฤษจำนวนมาก
ในเอกสารระบุสำแดงสิ่งของเป็นหมอน และยางกัญชาบรรจุขวด 1.4 กก.ที่มีค่า THC เกินร้อยละ 0.2 ซึ่งถือว่าเป็นยาเสพติดประเภท 5 เอกสารการส่งออกทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ขบวนการนี้อาจส่งออกกัญชามาแล้วหลายสิบครั้ง
ต้นเดือนพฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร จับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 2 คน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังพบพฤติการณ์ต้องสงสัย ว่าอาจลอบขนส่งกัญชาไปประเทศอังกฤษ
ในกระเป๋าเดินทาง เจ้าหน้าที่พบช่อดอกกัญชากว่า 70 กิโลกรัมถูกซุกซ่อนไว้ โดยใช้ผ้าห่มอำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ และเครื่อง X-ray
ผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การว่า รับจ้างหิ้วกระเป๋าสัมภาระผ่านผู้ว่าจ้างทางอินเทอร์เน็ต แต่ปฏิเสธเรื่องกัญชาในกระเป๋า และไม่รู้ว่าในกระเป๋ามีอะไร
เจ้าหน้าที่พบกัญชาในกระเป๋าผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เจ้าหน้าที่พบกัญชาในกระเป๋าผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
อีกหนึ่งจุดที่ชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ผ่านท่าอากาศยาน (AITF) และกรมศุลกากร ร่วมมือกันเฝ้าระวังและสกัดกั้น คือ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ที่พบว่า ถูกใช้เป็นช่องทางในการหิ้วกัญชาไปสหราชอาณาจักรด้วยเช่นกัน
5 พ.ย. ที่ผ่านมา กรมศุลกากร จับกุมชายสัญชาติอังกฤษ 1 คน ปลายทางมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานลอนดอน แกตวิก สหราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่พบของกลาง ช่อดอกกัญชา จำนวน 33 ห่อ น้ำหนัก 19 กิโลกรัม มูลค่า 190,000 บาท
2 ชั่วโมงถัดมา จับกุมชายสัญชาติอังกฤษได้อีก 1 คน อายุ 37 ปี พบปลายทางคือท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร พร้อมของกลางช่อดอกกัญชา จำนวน 42 ห่อ น้ำหนัก 24.5 กิโลกรัม มูลค่า 245,000 บาท
เจ้าหน้าที่พบช่อดอกกัญชา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
เจ้าหน้าที่พบช่อดอกกัญชา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวอังกฤษ สอดคล้องกับข้อมูลจาก ป.ป.ส. ที่ระบุว่า การใช้คนสัญชาติอังกฤษหิ้วของ อาจเพราะเป็นประเทศที่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศปลายทาง นอกจากนี้ ยังเคยพบผู้ต้องหาสัญชาติมาเลเซีย ลอบขนกัญชาจากไทยไปอังกฤษ ซึ่งเป็นสัญชาติที่ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าอังกฤษเช่นกัน
กลุ่มลับเสนอทริปเที่ยวไทย แลกหิ้วกัญชากลับ UK
นายปฤณ เมฑานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันพบว่า การลอบขนกัญชาไปยังสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นใน 2 รูปแบบคือ ซุกซ่อนไปกับตู้คอนเทนเนอร์ และ ให้คนสัญชาติอังกฤษ หรือ มาเลเซีย เดินทางมาประเทศไทย เพื่อมาขนกัญชากลับไป
ป.ป.ส.ตรวจสอบพบ กลุ่มลับในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม เสนอทริปมาท่องเที่ยวประเทศไทยฟรี โดยให้คนถือพาสปอร์ตสหราชอาณาจักร (UK) ลอบขนกัญชาปริมาณครึ่งกระเป๋าเดินทาง แลกกับทริปเที่ยวไทยฟรีประมาณ 5-7 วัน
ตัวอย่างข้อความชักชวนคนมาหิ้วกัญชา ในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม
ตัวอย่างข้อความชักชวนคนมาหิ้วกัญชา ในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม
ข้อความโฆษณาชักชวนจะเผยแพร่อยู่ในเทเลแกรมภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ตัวอย่างข้อความในแชท ระบุไว้ว่า มีที่พัก และตั๋วเครื่องบินฟรี ทริป 5-7 วัน ไม่จำกัดเพศ เงื่อนไขของผู้ที่สนใจ คือ ต้องถือพาสปอร์ตของสหราชอาณาจักร และพร้อมบินมาไทย เมื่อบินมาถึงเมืองไทย จะได้พบกับนายหน้าเครือข่าย พาไปที่โรงแรม และต้องขนกัญชาซ่อนในกระเป๋าเดินทาง อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของความจุกระเป๋า
อังกฤษเขาก็รับสมัครมือขนยาเสพติด ผ่านแอปพลิเคชั่น คือ เทเลแกรม ซึ่งมันมีข้อไม่เหมือนอย่างอื่น คือมันสามารถแชทตั้งได้ว่า หนึ่งชั่วโมงลบ มันจะไม่มีหลักฐาน
นายปฤณ เมฑานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.
นายปฤณ เมฑานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.
UK เตือน ไทยกำลังกลายเป็นผู้ส่งกัญชาออกรายใหญ่
สำนักงานต่อต้านอาชญากรรมแห่งสหราชอาณาจักร หรือ NCA รายงานผ่านเว็บไซต์ NCA ว่า ปี 2567 พบการลักลอบขนกัญชาในกระเป๋าสัมภาระผ่านท่าอากาศยานในสหราชอาณาจักรแล้ว 15 ตัน เพิ่มมากขึ้นกว่าสามเท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 378 คน ในจำนวนนี้มี 184 คน ที่พบว่า เดินทางมาจากประเทศไทย
มาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ระบุว่า ขณะนี้ทางอังกฤษมีความกังวลกับสถานการณ์การตรวจยึดกัญชาในอังกฤษ ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในปีนี้ และคาดว่ากลุ่มลักลอบขน อาจเป็นกลุ่มอาชญากรรม
จำนวนกัญชาที่ลักลอบขนส่งมาที่สหราชอาณาจักร และถูกเจ้าหน้าที่ยึดที่สนามบิน มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่กี่ปีก่อน การเดินทางจากประเทศไทยมายังสหราชอาณาจักรนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เรายึดกัญชาที่สนามบินได้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ละ 5-10 ครั้ง เป็นสัปดาห์ละ 35 ครั้ง
มาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย
มาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย
ขณะนี้ ป.ป.ส. ได้ร่วมมือกับทางอังกฤษ ร่วมพัฒนามาตรการป้องกันและตรวจสอบการลักลอบส่งกัญชาและยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศไทย โดยมีหน่วยงาน Airport Interdiction Taskforce หรือ AITF ซึ่งเน้นไปที่ระบบสแกน ตรวจสอบการลักลอบขนกัญชาและยาเสพติดชนิดต่างทั้งในการนำเข้าและส่งออก
“แม้กัญชาจะถูกปลดออกจากยาเสพติดของประเทศไทยแล้ว แต่ถ้ากัญชาไปสร้างผลกระทบให้กับประเทศอื่นๆ เราก็ยินดีที่จะช่วยเหลือจะสกัดกั้น เพราะมันผิดนำเข้าส่งออก” นายปฤณ กล่าว
ข้อมูลจาก ป.ป.ส. ระบุว่า นอกจากสหราชอาณาจักรที่เป็นหมุดหมายในการส่งออกกัญชาผิดกฎหมายแล้ว ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา กัญชาที่มีต้นทางจากประเทศไทย ถูกส่งออกไปประเทศที่ 3 ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย ลาว ออสเตรเลีย ฮ่องกง หรือ เมียนมา