ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ถึงคิว “หวานใจ” บิ๊กการเมือง ปม “สางแค้น” ยังมีภาคต่อ

การเมือง
2 ธ.ค. 67
21:12
386
Logo Thai PBS
ถึงคิว “หวานใจ” บิ๊กการเมือง ปม “สางแค้น” ยังมีภาคต่อ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ทันทีที่ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดประเด็น “หวานใจ” อดีตรองนายกฯ อาจมีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับรีสอร์ตรุกที่ดิน ส.ป.ก.ที่จ.สระบุรี เท่ากับจุดพลุเป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่ทันที เพราะมีเรื่องอาจเชื่อมโยงถึงนักการเมืองใหญ่ ที่มีชื่อเสียงและบารมี โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง

สำทับด้วยรัฐมนตรีเกษตรฯ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่น่าจะทราบเรื่องนี้ดีในระดับหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว เพราะต้นเรื่องมาจากที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า) นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานตรวจสอบและผู้ทำผิดการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน ประเภท ส.ป.ก. ได้บูรณาการเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงาน

ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สำนักงานกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) และ ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต (บก.ปปป.)

ไปตรวจสอบรีสอร์ทชื่อดังใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่ตั้งบนพื้นที่เนินเขาสวยงามทำเลดี รวมพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ปรากฏว่าพบทั้งรีสอร์ตหรู มีที่พักกางเต้นท์ ร้านคาเฟ่หรูหรา ให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. อีกทั้งการตรวจสอบยังพบว่า ที่ดินผืนดังกล่าว มีนายทุนใหญ่สวมสิทธิถือครอง ส.ป.ก.ผิดกฎหมาย ก่อนไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่สภ.มวกเหล็ก

จากนั้นเรื่องเงียบหายไป หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินการอย่างเงียบๆ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส เคยประกาศนโยบายยึดคืนที่ดินของรัฐ ที่อยู่ในมือของนายทุน คืนมาให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ จะได้มีที่ดินทำกิน

ซึ่งความจริงแล้ว ถือว่าเป็นนโยบายเด่นอย่างหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ ที่ริเริ่มตั้งแต่สมัย ร.อ.ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อมา มีการดำเนินการในหลายพื้นที่ อาทิ สุราษฎร์ธานี กระบี่ และอีกจังหวัด

ถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น.ส.นฤมล ขึ้นรัฐมนตรีเกษตรฯ แทน ร.อ.ธรรมนัส แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นนักการเมืองในกลุ่มเดียวกัน เมื่อพรรคพลังประชารัฐ กลายเป็นพรรคผ่าซีก แบ่งเป็น 2 ข้าง

ฝ่ายหนึ่งยังคงสนับสนุนและร่วมรัฐบาลต่อ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถูกขับออกจากรัฐบาล หลังพยายามเสนอชื่อน้องชายเป็นรัฐมนตรีในครม.ต่อ แต่ไม่มีชื่อ ร.อ.ธรรมนัสในโผ ขณะที่ “นายใหญ่” นายทักษิณ ชินวัตร พูดชัดเจนก่อนหน้านั้นว่า จะเลือกคนที่ทุ่มเทการทำงานให้รัฐบาลร่วม ครม. มีนัยหมายถึง ร.อ.ธรรมนัส

เรื่องนี้จึงกลับมาเป็นข่าวอีกรอบ บ่งบอกถึงความคืบหน้า และมีการขยายผลต่อเนื่อง จนพบความผิดปกติ ทั้งการครอบครองโดยผิดกฎหมายของนายทุนใหญ่ และอาจเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมือง

หรือมีอะไรที่เป็นจิ๊กซอว์ต่อถึงกัน ในลักษณะเป็นผลประโยชน์ร่วม หรือประสานช่วยเหลือเรื่องการขอสิทธิ์ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ได้อีกครั้ง เพราะข้อมูลวงในระบุว่า คนที่อ้างถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ดังกล่าว เคยถูกเพิกถอนสิทธิ แต่กลับยื่นขอรับ ส.ป.ก.ใหม่ นำไปสู่กระแส มีข้าราชการระดับสูงในจังหวัดและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ให้การช่วยเหลือ ซึ่งน่าจะเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมือง จึงสามารถสั่งการได้ขนาดนั้น

ฟังจากปาก “บิ๊กเต่า” พูดชัดว่า พบมีเส้นเงินถึง 10 ล้านบาท โอนครั้งละ 2 ล้านบาท ไปหยุดที่ “หวานใจของบิ๊ก” การเมืองผู้ใหญ่ จึงต้องออกหมายเรียกมาสอบสวน เพื่อให้ชี้แจงว่า เส้นเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องเรื่องอะไร

ส่อเค้าว่า อาจมีคนชื่อดังระดับที่เป็น “หวานใจ” อดีตรองนายกฯ อยู่ในคิวถัดไปที่ต้องถูกตัวโดยตำรวจสอบสวนกลาง สำหรับคนเด่นคนดัง ซึ่งตอนนี้ถูกตำรวจสอบสวนกลาง ที่นำโดย “รองเต่า” ออกหมายจับ หมายเรียก และควบคุมตัว โดยไม่ได้รับประกันตัวแล้วหลายคน

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ที่แตกเป็น 2 มุมมอง ด้านหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่อง “สางแค้น” ของนักการเมืองใหญ่ 2 คนที่ยังมาจบ หลังจากก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมรุกในรูปแบบ “นิติสงคราม”

แต่ก็มีตอบโต้กลับแล้วแต่กรณีเช่นกัน แต่อีกด้านหนึ่ง มองว่า เป็นเรื่องใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของนักการเมืองระดับ ”บิ๊ก” โดยเฉพาะในช่วงที่มีอำนาจบารมี เป็นที่เกรงกลัวของใคร ๆ รวมทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ

แต่ไม่ว่าจะในกรณีใด สำหรับกูรูการเมือง ต่างชี้ชัดว่า น่าจะเป็นเรื่องคนกันเอง หรือพี่น้องทำกันเอง เนื่องจากอาจมีการกุมความลับของอีกฝ่ายไว้ในมืออยู่ก่อนแล้ว ขึ้นอยู่กับใคร “สบช่อง” ได้โอกาสมากกว่ากัน หากเป็น “คนนอก” ไม่น่าจะรู้เรื่องที่ลึกซึ้งและน่าจะเป็น “ความลับ”ขนาดนี้

สมกับคำว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” ขึ้นอยู่กับใครได้ ใครเสีย หรือประสานผลประโยชน์ลงตัวหรือไม่ เป็นสำคัญ

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ยิ้มทั้งน้ำตา! สำรวจความเสียหาย "ตลาดมะพร้าว" น้ำท่วม 7 วัน

ลุ้น 4 ธ.ค."ต้มยำกุ้ง-เคบายา" ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมยูเนสโก

เตรียมใช้เครนรื้อโครงสร้างเหล็ก แนะทางเลี่ยงเหตุคานถล่ม "ถ.พระราม 2 "

ข่าวที่เกี่ยวข้อง