วันที่ 29 พ.ย.2567 ถือเป็นครั้งแรกของ "รัฐบาลแพทองธาร" จัดประชุม ครม.นอกสถานที่ใน จ.เชียงใหม่ โดยจะใช้หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดการประชุม ครม. ภายใต้ธีม "Form Flood to Flourish" หรือ ฟื้นคืนสู่ความเฟื่องฟู
รัฐบาลต้องการสื่อถึงแสงสว่าง ช่วยสร้างความเฟื่องฟูให้กับชาวเชียงใหม่หลังผ่านอุทกภัยครั้งใหญ่ และเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว หรือไฮซีซันของการท่องเที่ยว โดยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำถึงการเตรียมความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะการยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลใน 3 ประเด็นหลัก คือ การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรของการประชุม ครม.สัญจร การดูแลความปลอดภัย และการข่าวที่จะส่งผลกระทบกับการประชุม ครม.ครั้งนี้
ขณะที่วาระการประชุม ครม. โดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) เตรียมขออนุมัติงบกลาง 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการและฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 564 โครงการ อาทิ ซ่อมแซมและปรับปรุงงานชลประทาน การขุดลอกคลอง-อ่างเก็บน้ำ และงานก่อสร้างงานชลประทาน กำจัดวัชพืช จัดหาครุภัณฑ์ ซ่อมแซมถนน รวมถึงซ่อมบำรุงรักษาครุภัณฑ์
คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ขอความเห็นชอบกับมาตรการช่วยเหลือชาวนา ช่วยค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตข้าว เป็นเงินไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท ตามวงเงินงบประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอของบประมาณเพื่อใช้ในมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ส่วนกระทรวงพลังงาน เสนอโครงการลดค่าไฟฟ้า 4 บาท 15 สตางค์ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.2568
กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอขอความเห็นชอบนโยบายรัฐบาลเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3-4 ล้านคน ซึ่งวางไว้ให้สามารถใช้จ่ายได้ก่อนช่วงตรุษจีนปี 2568
กระทรวงคมนาคม เสนอให้ต่ออายุมาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย "สีแดง-สีม่วง" อีก 1 ปี พร้อมเมกะโปรเจกต์ "บก-ราง-อากาศ" รวมถึงโครงการเช่ารถโดยสารประจำทาง "EV", โครงการมอเตอร์เวย์-วงแหวนรอบนอก และโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดงเข้ม)
ขณะเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เตรียมเสนอจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) เพื่อใช้เป็นช่องทางเจรจาปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ในทะเล ตามข้อตกลง "MOU-2544" ระหว่างไทย-กัมพูชา และตามคาด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะนั่งเก้าอี้เป็นประธานคณะกรรมการ JTC ส่วนคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค-กฎหมายทะเล กรมอุทกศาสตร์ และกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ขณะที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมเสนอของบประมาณ 171 ล้านบาท เพื่อขุดลอก-คูคลองแม่น้ำปิง ระยะทางประมาณ 41 กิโลเมตร ป้องกันน้ำท่วมระยะยาว ส่วนที่ จ.เชียงราย เตรียมของบประมาณขุดลอก-คูคลองแม่น้ำกก ที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงราย 28 ล้านบาท ส่วนการขุดลอกแม่น้ำสาย จะนำเสนอให้กับนายกฯ อีกครั้ง ระหว่างลงพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยเฉพาะการรื้ออาคารที่รุกล้ำแม่น้ำสายและการก่อสร้างพนังป้องกันน้ำท่วม แต่อาจต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเช่นกัน
ส่วน กกร.จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมเสนอรายงานผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยใน จ.เชียงใหม่ เพื่อขออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อาทิ โรงเรียน โรงแรม โรงงาน โรงพยาบาล ร้านอาหาร ภัตตาคาร คาเฟ่ สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คในเมือง ศูนย์กระจายสินค้า ตลาดสด อู่ซ่อมรถ รวมถึงบริษัทผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สถานีจำหน่ายน้ำมัน ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
อ่านข่าว
“สามารถ” ทิ้งทุ่นระเบิด คน “บ้านป่า” สะเทือนไม่รู้จบ
"นักกฎหมาย" ตอบคำถาม ทำไมข้อพิพาท "ที่ดินเขากระโดง" ยังไม่จบ
เด็กไทยเสี่ยงโรคไต! เครือข่ายลดเค็มชงรัฐเก็บภาษีสินค้าโซเดียมสูง