ไม่ใช่เรื่องใหม่ สำหรับข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลยในคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา เมื่อปลายเดือนกันยายน 60 จะกลับประเทศไทย
เพราะเป็นที่เชื่อโดยทั่วไปอยู่แล้วว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพี่ชาย ที่เดินทางกลับประเทศเมื่อเดือน ส.ค.2566 ด้วยเหตุผลจะกลับมารับโทษ และอยากเลี้ยงหลานนั้น ยังมีเป้าหมายพาน้องสาว “กลับบ้าน” รวมอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวหลายครั้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยช่วงปลายปีนี้ คือปี 2567 แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองพลิกผัน นายเศรษฐาถูกสอยจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และ สว.ค่อนสภา ถูกมองว่า เชื่อมโยงกับพรรคูมิใจไทย
ทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีงานแทรกต้องประสานเจรจาหารือ เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่ยังไม่ลงตัวเสียทีเดียว แม้จะปรากฏข่าว “ครูใหญ่” เข้าจันทร์ส่องหล้าพบ “นายใหญ่” แล้วก็ตาม
น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ทำให้การเดินทางกลับประเทศ ต้องเลื่อนออกไปเป็นสงกรานต์ ซึ่งนายนายทักษิณ ได้เคยพูดก่อนหน้านี้เช่นกันว่า สงกรานต์ปีหน้า (2568) น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาฉลองสงกรานต์ที่ประเทศไทยด้วย
ขณะที่สงกรานต์ ถือเป็นเทศกาลที่ดีสำหรับคนไทย เพราะเป็นช่วงขึ้นปีใหม่ไทยของไทยโบราณ มีประเพณีรดน้ำดำหัว การพบปะพร้อมหน้าพร้อมตาของสมาชิกในครอบครัว จึงถูกยกเป็นวันครอบครัว เป็นวันรื่นเริงเถลิงศกใหม่
การกลับมาในช่วงนั้น จะดีต่อความรู้สึกของทั้งอดีตนายกฯ หญิงคนแรก และแฟนคลับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะมวลชนคนเสื้อแดง ที่นายทักษิณหวลกลับไปหาอีกครั้ง
ด้านหนึ่ง มั่นใจว่า สามารถคุมสถานการณ์ทางการเมืองได้ในระดับหนึ่ง ประกอบกับสมมุติฐาน หากมีอะไรเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ แล้วจะมีใคร หรือพรรคไหน สามารถสกัดทัดทานพรรคประชาชน ไม่ให้เข้าสู่ศูนย์กลางของอำนาจ เป็นรัฐบาลบริหารประเทศได้ ซึ่งจะกระทบต่อกลุ่มอำนาจเก่า และเครือข่ายที่ได้ประโยชน์มายาวนาน
ข่าวการเตรียมกลับประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีเสียงขานรับจากคนในรัฐบาล รวมทั้งพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จากพรรคประชาชาติ ที่ก่อนหน้านี้ ถูกวิพากษ์ว่า ทำหน้าที่ปกป้องนายทักษิณมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ด้วยเหตุผลสำคัญ คือทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและประกาศกรมราชทัณฑ์ทุกประการ
ครั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี พูดตอกย้ำว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ต้องเริ่มที่ศาลออกหมายขังก่อน เมื่อรับหมายแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มี “ทักษิณโมเดล” แต่ไม่วายทำให้ฝ่าย “ไม่เอาทักษิณ” ไม่มั่นใจเกรงจะออกมาแบบ “โมเดลทักษิณ” อีก
ก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม มือกฎหมายชั้นเซียน และเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ นายเศรษฐา เคยตอบคำถามสื่อ กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขอพระราชทานอภัยโทษเหมือนกับนายทักษิณ ได้หรือไม่ว่า
การขอพระราชทานอภัยโทษมีลำดับคือ 1.ต้องกลับเข้ามาประเทศ 2.ต้องมามอบตัวเป็นนักโทษ แล้วจึงจะถวายฎีกาได้ หากยังไม่ได้รับโทษ ก็ยังถวายฎีกาไม่ได้ ส่วนขั้นตอนจะเหมือนนายทักษิณ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งก็ได้เห็นการขยับอย่างมีจังหวะ เป็นขั้นตอนเป็นตอนต่อเนื่อง สำหรับกฎเกณฑ์รับโทษ และการลดโทษของนักการเมืองระดับวีไอพี ตั้งแต่ก่อนหน้าที่นายทักษิณจะกลับประเทศด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.ยุติธรรม ซึ่งมีการออก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 และกฎกระทรวง ปี 2563 ว่าด้วยการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ และในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ ได้สร้างความฮือฮาเปิดประเด็นข้าวเก่า 10 ปี ในโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เน่าเสีย และสามารถประมูลนำเงินเข้ารัฐบาลได้อีกต่างหาก
การเปิดประเด็น น.ส.ยิ่งลักษณ์เตรียมกลับบ้าน จึงไม่ใช่เรื่องที่จู่ ๆ จะพูดขึ้นมาเฉยๆ เพราะในเชิงการเมือง ย่อมมีการตระเตรียมไว้ล่วงหน้า อยู่ที่ว่าจะลุ้นแบบ “ทักษิณโมเดล” หรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ อย่างที่ พ.ต.อ.ทวี อ้างถึง หรืออาจใช้โมเดลใหม่ ขอพระราชทานอภัยโทษผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ หรือโมเดลอื่น ๆ
ที่สำคัญ ภารกิจสำคัญของนายใหญ่ อาจกำลังจะเป็นจริงอีกครั้งก็ได้ ในอีกไม่นานเกินรอ
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : สวยสง่า "โอปอล สุชาตา" รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส กลับไทย เปิดใจครั้งแรก
เกิดเหตุลอบวางระเบิด 4 ลูก จ.นราธิวาส - ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
ปปง.เปิดยื่นคำร้องขอคืนทรัพย์สิน "ผู้เสียหายดิไอคอน" ถึง 17 ก.พ.68