ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยุติ "เปิบน้องหมา" ไม่แก้หนาวแถมเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า

สังคม
15 พ.ย. 67
13:24
166
Logo Thai PBS
ยุติ "เปิบน้องหมา" ไม่แก้หนาวแถมเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า
ไม่ได้รู้สึกว่าช่วยได้ตามสรรพคุณได้เลยที่ว่ากินเนื้อหมา จะเป็นยาชูกำลัง เป็นการพูดแค่ในสวนดีที่คนอยากกินมากกว่า

จอน หนุ่มวัย 30 ปีชาวเชียงราย บอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์ถึงเรื่องราวการกินเนื้อสุนัข หรือเนื้อหมาที่เกิดขึ้นกับเคสของน้องหมาซูชิ ที่มีชาวอาข่า อ้างขอรับไปเลี้ยงแต่สุดท้ายถูกพบว่านำไปฆ่ากิน

หนุ่มชาวเชียงราย บอกว่า เมื่อกว่า 10 กว่าสมัยที่ยังเรียน ปวช.เคยกินเนื้อหมาในร้านลับแถวเชียงราย เพราะเป็นการชักชวนและท้าทายจากเพื่อนๆ ที่ิกินเหล้าขาวและยาดอง ซึ่งส่วนใหญ่เด็กวัยรุ่น จะรู้ว่าหลังร้านยาดอง (ร้านลับ) นี้มีเมนูเนื้อหมา ประกอบกับความเชื่อของผู้สูงอายุ ที่บอกว่ากินแก้หนาวกินเป็นยาชูกำลัง 

กินไม่เกิน 10 ครั้ง เพราะเพื่อนท้าทายกัน คนเหนือไม่ได้กินเป็นอาหารหลัก แต่มีความเชื่อกินแล้วเป็นยาชูกำลัง ไม่ใช่ทำเป็นกับข้าว แต่เป็นกับแกล้มเหล้า ช่วงนั้นยังไม่มีกฎหมายทารุณกรรม

อ่านข่าว "น้องซูชิ"ผองเพื่อนรวม 4 ชีวิต น้องหมาหาบ้านถูกส่งโรงเชือด

หากถามถึงรสชาติ จอน บอกว่า รสชาติเหมือนไก่ ไม่คาว แต่ต้องปรุงแบบรสจัดและกินกับเหล้าขาวอย่างเดียว ไม่เหมาะกับเบียร์หรือเหล้าแดง และไม่บอกว่าเนื้อหมาสายพันธุ์ไหน แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาหมาแถวบ้าน คงไม่เอาตัวแพงมาชำแหละขาย และยิ่งถ้าเป็นหมาดำจะยิ่งดี ทำนองว่าสรรพคุณดีเหมือนซุปไก่ดำ เป็นยาที่ดีกว่า

รูู้ว่าเนื้อหมา เขาเรียกว่าเนื้อสวรรค์ ไม่ได้รู้สึกกลัวในตอนนั้น เพราะวัยรุ่น และต้องการยอมรับในกลุ่มเพื่อน จากการท้าทาย และคำบอกต่อๆ กันเป็นเนื้อ ชาวบ้านก็รู้ว่าเป็นร้านลับ แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว 

จอน ยอมรับว่า หลังจากโตขึ้น และได้เดินทางไปที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งก็ยังมีการวางจำหน่ายเนื่้อหมาแบบหน้าตู้แขวนเป็นตัวๆ แบบข้าวมันไก่เลย เห็นแล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงไม่กินเนื้อหมา เพราะแท้จริงแล้วไม่ได้มีสรรพคุณแก้หนาว หรือเป็นยาชูกำลังตามที่กล่าวอ้างเลย ยิ่งวันนี้เห็นข่าวน้องซูชิ รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้

เขาบอกว่า ในปี 2567 ที่โลกพัฒนาไปมากแล้ว อยากให้ยุติการกินเนื้อหมา รวมทั้งขอแนะนำสำหรับคนที่จะให้หมาบุคคลที่ 3 ไปเลี้ยงควรต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนให้น้องหมาไปเลี้ยงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบน้องซูชิ

อ่านข่าว เช็กอาการเสี่ยง! ปศุสัตว์แม่สาย ประกาศเขตโรคพิษสุนัขบ้า

เตือนชำแหละ-กินเสี่ยงพิษพิษสุนัขบ้า

นายสัตวแพทย์เกษตร สุเตชะ นายสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและนวัตกรรมทางสัตวแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ค่านิยมกินเนื้อหมาในภาคเหนือบางจังหวัด และภาคอีสาน มีอยู่แล้วไม่เคยหายไปไหนโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว เพราะความเชื่อที่ว่ากินหมาดำ จะช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น

ทั้งนี้ เรื่องค่านิยมกินหมาไม่ได้หายไปไหน แม้จะลดน้อยลงกว่าในอดีต เพราะว่าคนจำนวนมากในไทย และทั่วโลกจะเลี้ยงหมา-แมวแบบลูก ดูแลสุขภาพสัตว์ดีขึน แต่ไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงจากการเชื้อโรคจากหมาจะหมดไป เนื้อหมายังมีความเสี่ยงในการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า โรคพยาธิใบไม้ในตับ พยาธิไส้เดือน พยาธิตัวตืด โรคแท้งก์ติดต่อ โรคฉี่หนูยังเกิดขึ้นได้

เฉพาะหมาจรจัดที่อาจถูกจับมากิน เสี่ยงติดโรคพิษสุนัขบ้า หากถูกกัดระหว่างถูกจับ รวมทั้งระหว่างการชำแหละที่อาจรับเชื้อผ่านเลือด ของเหลวในตัวหมา เข้าสู่ร่างกายได้ รวมถึงเนื้อหมา และเครื่องในหมาแม้จะปรุงสุกก็ตาม  

อ่านข่าว เช็ก "พิษสุนัขบ้าในคน" รับเชื้อเสี่ยงตาย สงขลาประกาศเขตโรคระบาด

เหตุผลยุติบริโภคเนื้อหมาในทวีปเอเชีย

จากการตรวจสอบข้อมูลของ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ซึ่งรณรงค์ธุรกิจค้าเนื้อสุนัขและแมวในเอเชียมากว่า 11 ปี ครอบคลุมประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา ไทย ไต้หวัน จีน เกาหลีใต้ 

ข้อมูลระบุว่า ในประเทศเวียดนาม คาดการณ์ว่ามีสุนัขกว่า 5 ล้านตัวที่ถูกชำแหละในแต่ละปีเพื่อการบริโภค โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า รัฐบาลเวียดนามได้ทำการสุ่มทดสอบสุนัขหลายร้อยตัวในโรงเชือด และได้ทราบผลจากหน่วยป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (US CDC)

พบว่าสุนัขมากกว่า 3% มีผลทดสอบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าเป็นบวก ซึ่งทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขและผู้บริโภคมีความเสี่ยง

อ่านข่าว วันแม่ 2566 : ตัวลูก ตัวบุตร ตัว 4 ขา เมื่อ "สัตว์เลี้ยง" เป็นลูกตัวโปรด

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ยังระบุว่า ร่วมมือกับฝ่ายควบคุมโรคระบาดสัตว์ของเวียด นาม (Department of Animal Health) ในการสำรวจโรงเชือดและร้านอาหารที่มีเมนูจากเนื้อสุนัข เพื่อรวบรวมหลักฐาน ข้อมูลในการสนับสนุนการ กวาดล้างธุรกิจดังกล่าว ด้วยเหตุผลด้านความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน

ในเดือน ก.ย.2561 จังหวัดฮานอย ได้ประกาศว่าฮานอย จะแบนการค้าเนื้อสุนัขในเมืองทั้งหมดภายในปี พ.ศ.2564 จากนั้นในเดือน ก.ย.2565 ตั้งกลุ่มการทำงาน เพื่อเดินหน้ายุติการค้าเนื้อสุนัขและแมว โดยมุ่งเป้าไปที่การควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าเป็นหลัก ร่วมกับฝ่ายควบคุมโรคระบาดสัตว์ของเวียดนาม กลุ่มความร่วมมือภูมิภาคฮานอย และ GARC

ขณะนี้โครงการมีความก้าวหน้าอย่างมาก ในเดือนก.ค.2566 มีการประชุมกับสภาแห่งชาติเวียดนาม เกี่ยวกับการค้าเนื้อสุนัขแและแมว และในปีเดียวกันนี้ฝ่ายการศึกษาของเวียดนาม และสมาคมผู้ใช้ยาแผนโบราณ ยังได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อยุติกิจการค้าเนื้อในประเทศ

ผู้นำสมาคมแพทย์แผนโบราณแห่งเวียดนาม (VOTMA) ได้ประกาศยกเลิกการใช้เนื้อสุนัขและแมวในส่วนผสมของยาและโรงเรียนหลายแห่งได้รณรงค์เรื่องดังกล่าวในหลักสูตรการศึกษา

ในเดือนมิ.ย.2567 ทางการของกรุงฮานอย ได้ออกคำสั่งให้ยุติการค้าเนื้อสุนัขและเนื้อแมวทั่วเมือง เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ถูกต้องตามจริยธรรมมากขึ้น

อ่านข่าว 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง