เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2567 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ธรรมเนียมเก่ากลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งหลังห่างหายไปนานถึง 8 ปี และบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางข่าวดีของพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไว้ได้ ส่งให้ "ทรัมป์" กุมบังเหียนพร้อมเสียงสนับสนุนจากสภาคองเกรสทั้งหมดแบบไร้เสียงทัดทาน
"โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ กลับเข้าทำเนียบขาวอีกครั้งในรอบ 4 ปี พบปะ "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โดยไบเดนกล่าวแสดงความยินดี และตั้งตารอการถ่ายโอนอำนาจอย่างเรียบร้อย และจะเตรียมความพร้อมให้ทรัมป์ทุกอย่าง ส่วนทรัมป์กล่าวขอบคุณไบเดน พร้อมระบุว่า การเมืองเป็นเรื่องยาก หลายครั้งอะไร ๆ ไม่ค่อยจะเป็นไปในทางดีที่เท่าไร แต่วันนี้เป็นวันดี และแสดงความขอบคุณไบเดน
ทรัมป์ - ไบเดน
ทั้งคู่หารือกันร่วม 2 ชั่วโมง ซึ่งโฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ทรัมป์มาพร้อมคำถามที่เตรียมมาล่วงหน้า และแน่นอนว่าทั้งคู่หารือกันเรื่องยูเครนกับตะวันออกกลาง ปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลใหม่ต้องเตรียมรับมือ
ความปรองดองในภาพนี้สวนทางกับการพบหน้ากันครั้งล่าสุดบนเวทีโต้อภิปรายที่ทั้งคู่สาดโคลนใส่กัน หลังจากเป็นปรปักษ์กันมานานหลายปี และยังเป็นจุดเปลี่ยนซึ่งทำให้ไบเดนถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นที่สหรัฐฯ (13 พ.ย.) ซึ่งทรัมป์เดินทางออกจากบ้านพักที่ WEST PALM BEACH, FLORIDA มุ่งหน้าฐานทัพอากาศ JOINT BASE ANDREWS, MARYLAND ก่อนไปพบกับนักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกัน และเข้าพบไบเดน
ภาพความกลมเกลียวของประธานาธิบดีที่กำลังจะหมดวาระกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ปกติแล้วเป็นสิ่งที่จะได้เห็นกันทุก 4 ปี หลังการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีในวาระจะหารือเตรียมส่งไม้ต่อการบริหารประเทศ แต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วหลังการเลือกตั้งปี 2563 ภาพนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งนับจนถึงวันนี้ เขาก็ยังไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนั้น
แต่ถ้าย้อนไปปี 2559 ธรรมเนียมนี้เกิดขึ้นตามปกติ ซึ่งเวลานั้นอดีต ปธน.บารัก โอบามา เชิญทรัมป์เข้าทำเนียบขาวไม่ต่างจากไบเดน เพื่อหารือถึงภาระงานและการถ่ายโอนอำนาจ
ทรัมป์ขณะจับมือกับโอบามา
สำนักข่าวเอพีที่เกาะติดรายงานข่าวที่ทำเนียบขาวตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์วันนี้ ที่พบกับไบเดน กับทรัมป์เมื่อ 8 ปีก่อนที่เข้าพบโอบามา แตกต่างกันมาก ครั้งที่แล้วเขาดูประหม่าและออกแนวสงบเสงี่ยม แต่ครั้งนี้ทรัมป์ดูเหมือนคนที่ได้กลับเข้าไปในสถานที่ที่คุ้นเคย แต่ขณะเดียวกันก็สง่างาม และไม่ได้จะส่อแววปะทะคารมกับไบเดนอย่างที่สาดโคลนใส่กันมานาน
รีพับลิกันครองเสียงข้างมากสภาผู้แทนราษฎร
เป็นผู้ชนะนี่รู้สึกดีนะ
ทรัมป์กล่าวกับ สส.รีพับลิกันที่วอชิงตัน ดีซี ฉลองความสำเร็จของพรรคและการกลับมาของเขา ซึ่งล่าสุดสื่อหลายสำนักประเมินผลการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ค้างคารอผลมา 1 สัปดาห์เต็ม และดูเหมือนว่ารีพับลิกันจะรักษาเสียงข้างมากไว้ได้ หลังรักษาที่นั่งในแคลิฟอร์เนียและแอริโซนาก่อนหน้านี้ พลิกมาครองที่นั่งเสียงข้างมากในวุฒิสภาไปแล้วก่อนหน้านี้
เท่ากับว่าทรัมป์จะกลับเข้าทำเนียบขาวพร้อมกุมอำนาจเต็มกำมือทั้ง 2 สภา ทำให้นโยบายต่าง ๆ ที่ให้คำมั่นไว้ช่วงเลือกตั้งยิ่งน่าจับตามอง เมื่อทิศทางนโยบายของเขาอาจจะปราศจากเสียงคัดค้าน
อีลอน มัสก์ - โดนัลด์ ทรัมป์ - วิเวก รามาสวามี
หลายฝ่ายกำลังจับตามองการแต่งตั้งรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่คนสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ซึ่งล่าสุดทรัมป์กล่าวถึงการเข้ามาทำงานในรัฐบาลของมหาเศรษฐีอย่าง อีลอน มัสก์ และ วิเวก รามาสวามี ที่จะมานำการบริหารกระทรวงประวิทธิภาพรัฐบาล หรือ Department of Government Efficiency ซึ่งทรัมป์ระบุว่าทั้งคู่จะเข้ามารื้อระเบียบราชการที่ยุ่งยาก ตัดลดกฎระเบียบต่าง ๆ และงบประมาณที่สิ้นเปลืองลง รวมถึงปรับโครงสร้างการบริหารงานในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
อ่านข่าวอื่น :
"Doge" ทีมปฏิรูประบบราชการ "ทรัมป์" แต่งตั้ง "มัสก์" นั่งหัวโต๊ะ