"แพทองธาร" แจงขอ ป.ป.ช.ขยายเวลายื่นทรัพย์สิน

วันนี้ (5 พ.ย.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยอมรับว่าเตรียมเอกสารไม่ทัน เพราะงานทุกอย่างเข้ามารุมเร้ามาก และได้เคยระบุว่าจำเป็นต้องชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน

แต่ขอขยายระยะเวลา เพราะว่าจะทำให้มีความละเอียดและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ทางครอบครัวได้ช่วยเหลืออยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการโอนหุ้นอีก 16 บริษัทไปแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดำเนินการจัดการแล้ว ซึ่งดำเนินการทุกอย่างตามข้อกฎหมายในส่วนของสามีและพี่สาว ก็ได้ดูในเรื่องนี้และนำกฎหมายมาเทียบกัน

อ่านข่าว ครม.ตั้ง "พล.ต.อ.รอย" นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม ไฟเขียว 2 รองโฆษกรัฐบาล

รับฟังฝ่ายค้าน ปมแก้ไขรัฐธรรมนูญ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนเสนอหารือการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยินดีรับฟัง หากมีสิ่งใดต้องตั้งคณะกรรมการพูดคุย หรือหารืออย่างเป็นทางการ ส่วนมีหนังสือเข้าพบมาถึงนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ยังไม่มี ทราบข่าวจากสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกว่ามีการติดต่อมา เรื่องนี้ไม่ได้ติดใจหากจะเข้าพบ

ส่วนข้อกังวลที่จะแก้รัฐธรรมนูญไม่ทันในรัฐบาลนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำในสิ่งที่ทำได้ และต้องถูกต้อง เพราะถ้าระยะเวลายาวนานเกินไป อาจจะเกิดปัญหาภายหลังได้ เมื่อมาอยู่ตรงนี้ได้ทราบถึงปัญหาต่าง ๆ ที่มีมาก ถ้าเร่งรีบในกระบวนการมากเกินไป นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์แล้ว ระหว่างทางอาจจะโดนฟ้องด้วย ต้องช่วยกันดูรายละเอียด แต่รัฐบาลต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครบถ้วนและพูดคุยถึงระยะเวลาว่าจะดำเนินการอย่างไร

ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยได้มีการหาเสียงไว้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องมีการหารือกัน และไม่มีการแตะในหมวด 1 และ 2 เป็นสิ่งที่รัฐบาลทุกพรรคเห็นตรงกัน

ส่วนเนื้อหาในรัฐธรรมนูญมีประเด็นใดเป็นปัญหามากที่สุด จนต้องนำไปสู่การแก้ ไข นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การถามเช่นนี้จะเป็นการเปิดการโต้แย้ง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำเพื่อเอื้อต่อประชาธิปไตยและประชาชนให้มากที่สุด

อ่านข่าว "ทนายตั้ม" ชิงพบ ตร.ปมฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท "เจ๊อ้อย"

คิวแน่น "แพทองธา" เดินสายประชุม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Summit) ครั้งที่ 8 และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 10 วันที่ 6-7 พ.ย.นี้ ที่ประเทศจีน

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ประเทศไทย ต้องการผลักดันบทบาทในมิติอื่น ๆ เช่น การเป็นผู้ประสานงานกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ACMECS รวมถึงการแก้ปัญหาความท้าทายร่วม โดยเฉพาะประเด็นอาชญากรรมข้ามพรมแดน มลพิษทางอากาศ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

จากนั้นในวันที่ 10 พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะเดินทางไปประชุมสุด ยอดผู้นำประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปกที่กรุงลิมา ประเทศเปรู 

อ่านข่าว

กกต.กางไทม์ไลน์เลือก "นายก อบจ." 1 ก.พ.68

ส่งสำนวนคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" 18 แฟ้มให้อัยการ ผู้เสียหายค้านประกัน