วันนี้ (5 พ.ย.2567) เมื่อเวลา 09.40 น.นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อให้ปากคำกรณีปมเงิน 71 ล้านบาทของนางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย หญิงไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส หลังข่าวสะพัดว่าตำรวจเตรียมออกหมายจับ
ทนายตั้ม เปิดใจว่าในประเด็นต่างๆ โดยจะขอพูดในสิ่งที่ไม่มีผลกระทบต่อสำ นวน และจะทำให้พี่อ้อยได้รับความเสียหายน้อยที่สุด ตอนนี้ได้ปิดมือถือเบอร์เดิม เพราะถูกนักข่าวช่องดัง คุกคามตามไปถึงที่บ้าน และมีตำรวจไปเฝ้าที่บ้าน
จริงๆ ไม่อยากมาพบตำรวจก่อน แต่ตอนนี้มีตำรวจและสื่อไปบ้าน และมีการเชิญพยานแต่คล้ายกับการอุ้ม พยานต่างๆ ไม่สยายใจ ยืนยันไม่หนีไปมาเลเซียและไม่ได้เอาเงินออกจากบัญชี ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เข้าพบตำรวจกองปราบ
แจง "หมดรักน้องรัก"
ทนายตั้ม ระบุอีกว่า ถึงตอนนี้เชื่อว่า ตำรวจกองปราบปรามจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรหลังจากสอบผู้เสียหายไปหลายรอบ และคงทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรโดยเรื่องรถและเรื่องเงิน เดิมตัวเองเป็น "น้องรัก" เขาเลยให้ทำทุกโครงการและทำใบเสนอราคา แต่ส่งมอบทุกโครงการแล้ว แต่พอตอนนี้ไม่รักจะดึงเรื่องนั้นเรืองนี้มา จะเข้าฉ้อโกงต้องมีเจตนาหลอก แต่ตัวเองยืนยันส่งโครงการให้ทุกอย่าง
ขอให้ตำรวจลองดูเลยว่าเงิน 71 ล้านบาท ตรวจตามหลักฐานได้ทั้งหมด ยืนยันไม่ฉ้อโกง เพราะส่งมอบงานให้ทุกครั้ง และไม่อยากให้ใครมาใช้ตำรวจกองปราบเป็นเครื่องมือ
ส่วนรถเบนซ์ราคา 8-9 ล้านบาทในตลาดสามารถตรวจสอบได้ และเรื่องของไฟแนนซ์ เป็นชื่อของนางจตุพรเอง การที่สื่อออกมาไม่ใช่ และตัวเองเป็นคนรักรถ จึงถามว่าเดือดร้อนถึงจะให้จีนเทาเช่าหรือไม่
นางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย
แจงปม 39 ล้านถูกสแกมเมอร์ลวง
นอกจากนี้ทนายตั้ม ยังระบุถึงเรื่องเงิน 39 ล้านบาท โดยระบุว่าไม่รู้ว่าพี่อ้อยไปให้ข้อมูลหรือจากสื่อ แต่ยืนยันว่าเป็นคนละเรื่องกับเรื่องจริง ซึ่งกรณีเป็นการพยายามโอนรอบ 2-3 รอบมาจากฝรั่งเศส เพื่อให้กับบุคคลหนึ่งที่อ้างว่าเป็นดาราจีน โดยอ้างชื่อ"เฉินคุณ"เพื่อให้มาโชว์ตัวในไทย ทางบิตคอนย์
ในช่วงที่โอนเงิน 2-3 รอบกับพบตุกติกไม่มา และตัวเองเริ่มสืบและพบว่าเขาน่าจะใช้ชื่อแอบอ้าง และเป็นสแกมเมอร์ โดยพยายามบอกว่าถ้าเป็นดารา เป็นคนที่มีแวรูลสูงเขาจะไม่คุยกับเอฟซีแบบนี้
จากนั้นทำให้พี่อ้อยยังโอนเงินให้เพิ่มอีก 5 ล้านบาทจนตัวเองไม่อยากยุ่งประกอบกับช่วงนั้นมีงานที่พี่อ้อยจัดงาน จนมาเจอกับคนชื่อ "น้องนุ" และพี่อ้อยได้คุยและให้น้องนุ เป็นคนจัดการเรื่องบิตคอยน์
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดใจปมฉ้ฮโกงเงิน 71 ล้านบาท
อ่านข่าว “เจ๊อ้อย” ให้ปากคำนาน 12 ชม. มั่นใจไม่ได้ให้ 71 ล้านบาทโดยเสน่หา
นายษิทรา กล่าวตอนหนึ่งว่า หากทางตำรวจต้องการให้มาให้ข้อมูล รอมาตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมา อยากให้ฝ่ายพี่อ้อยให้การให้เต็มที่ เคยทำหนังสือมาครั้งหนึ่งตั้งแต่คดีโอนมาที่นี่ใหม่ ๆ ซึ่งตยบอกว่า ขอให้สอบผู้กล่าวหาอย่างละเอียดกับพยานโดยแยกกัน ไม่ได้อยากให้มีทนายความด้วย
อ่านข่าวอื่นๆ
โอนคดี "ทนายตั้ม" ฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน ให้สอบสวนกลาง
ปลดล็อก! เหี้ย-นกนางแอ่นกินรัง เพาะเลี้ยงขายได้