เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2567 ทีมสัตว์แพทย์ร่วม ตัดสินใจให้ย้าย “น้องกันยา” ลูกช้างจากเข้ารับการรักษาต่อเนื่องที่โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง เบื้องต้นมีรายงานติดไวรัสในลูกช้าง
โดยทีมร่มแดนช้างได้เคลื่อนย้าย “พังแม่โมลา” เดินทางตามมาด้วยรถอีกคัน เพื่อจะช่วยลดการตื่นกลัวและความเครียดของลูกช้าง
ล่าสุดโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย Elephant Hospital, TECC
ผลไวรัส EEHV ของเด็กหญิงกันยาเป็นบวก คืนนี้หลังจากที่ได้เลือดของป้าขอดและยาเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาพักผ่อนของทุกๆคน ขอให้สู้สุดใจเลยนะเด็กน้อย
นอกจากนี้ยังระบุว่า ขอบคุณในน้ำใจของป้าขอด และพี่ไล (ควาญช้างของป้าขอด) ที่ถูกให้มาบริจาคเลือดนอกเวลา เพื่อเตรียมให้ "น้องกันยา" ที่สงสัยว่าป่วยด้วย EEHV
ทั้งนี้ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ได้โพสต์คอมเมนต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa เด็กน้อยของป้าเก่งอยู่แล้วลูก พร้อมให้กำลังใจทีมงานที่ดูแลกันยาอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ “กันยา" เป็นลูกช้างป่ากำพร้า หลังได้รับการช่วยเหลือจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ และ ถูกนำมาเลี้ยงกับช้างแม่รับ ที่ Patara Elephant Farm อ.หางดง จ.เชียงใหม่
สำหรับโรคเฮอร์ปีส์ไวรัส EEHV ในช้าง เป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาเป็นการประคับประคองตามอาการ โดยเฉพาะช้างเล็ก 6 เชือกอายุ 2-3 ปี เพราะถือเป็นช่วงอายุที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และมีความเสี่ยงสูงจะติดเชื้อเฮอร์ปีส์ไวรัส ซึ่งช้างที่ติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงจากเชื้อที่ทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้ของเหลวออกนอกเส้นเลือด ระบบอวัยวะภายในเสียหาย และจะล้มอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน
ผศ.สพ.ญ.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเฮอร์ปีส์ไวรัส ระบุว่า สถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2006-2023 พบว่าช้างเลี้ยงในประเทศไทย ป่วยด้วยโรคเฮอร์ปีส์ไวรัส 128 เชือก ในจำนวนนี้ ล้ม 85 เชือก ซึ่งคิดเป็นอัตราป่วยตาย ร้อยละ 66.4
อ่านข่าว
อัปเดต "พังกันยา" ลูกช้างป่ากำพร้า พัฒนาการดีขึ้น ทั้งเล่น-กิน
เฮอร์ปีส์ไวรัส ภัยร้ายที่คนเลี้ยงช้างต้องเฝ้าระวัง
เดินขึ้นรถเอง! "พลายขุนเดช" ออกเดินทางเข้าบ้านใหม่ลำปาง
ปลดล็อก! เหี้ย-นกนางแอ่นกินรัง เพาะเลี้ยงขายได้