วันนี้ (3 พ.ย.2567) รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มี "หนี้บ้าน-หนี้รถยนต์" ที่กำลังจะกลายเป็น "หนี้เสีย" หรือค้างชำระไม่เกิน 90 วัน (SM) โดยแนวทางช่วยเหลือเบื้องต้น อาจเป็นการพักชำระดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี ขยายระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น และลดการจ่ายเงินต้นลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยจ่ายในแต่ละงวด ซึ่งแม้ว่ามาตรการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ก็เป็นความหวังใหม่ของผู้ที่กำลังดิ้นรนชักหน้าไม่ถึงหลัง
ตัวอย่างเช่น น.ส.เบญญาภา กล่อมยัง ชาวนครสวรรค์ ที่ใช้รถกระบะทำงานทุกวัน แต่บางเดือนกลับขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินพอชำระค่างวดรถ ทำให้กังวลว่าจะถูกไฟแนนซ์ยึดรถ การผ่อนรถถือเป็นภาระใหญ่สำหรับเธอ หากมีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลเธอยืนยันว่าจะเข้าร่วมโครงการทันที เพราะรถคือสมบัติที่ใช้ทำมาหากิน
ไม่ใช่แค่ น.ส.เบญญาภาเท่านั้น ยังมีแม่ค้าจาก จ.ตรัง อีกคนที่ต้องผ่อนรถเดือนละ 12,000 บาท แต่ขณะนี้ค้างชำระกับบริษัทลิสซิ่งไปแล้ว 2 เดือน เพราะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย เธออยากให้มาตรการช่วยเหลือนี้ ครอบคลุมถึงลูกหนี้ของบริษัทลิสซิ่งทุกแห่ง ไม่ใช่เฉพาะธนาคารหรือสถาบันการเงินเท่านั้น เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดประโยชน์จริงกับประชาชนทุกกลุ่ม
แต่มาตรการของรัฐบาลที่เปิดเผยออกมา บางส่วนจะครอบคลุมลูกหนี้ทุกคน-ทุกกลุ่มหรือไม่ เพราะหากจำกัดเฉพาะลูกค้าที่เป็นหนี้ กับบริษัทสถาบันการการเงิน ก็เท่ากับว่า "ฝนตกไม่ทั่วฟ้า ช่วยได้ไม่ทั่วถึง" คำถามคือ รัฐบาลต้องช่วยทุกคนที่กำลังประสบปัญหาหรือไม่ ?
ข้อมูลจากสถิติพบว่าหนี้เสียที่ค้างชำระเกิน 90 วันทั่วประเทศ ณ ส.ค.2568 มีมูลค่ากว่า 1.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 13.3 โดยเป็นหนี้บ้านกว่า 230,481 ล้านบาท และหนี้รถยนต์กว่า 259,330 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่ค้างชำระ 31-90 วันซึ่งใกล้จะกลายเป็นหนี้เสีย มีมูลค่ารวมกว่า 641,393 ล้านบาท
อ่านข่าวอื่น :
ผบ.ทร.ลั่นปกป้องอธิปไตย "เกาะกูด" ปฏิเสธความขัดแย้ง 2 ประเทศ