ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

โค้งสุดท้าย“เลือกตั้งสหรัฐฯ” นักวิชาการ ห่วงนโยบาย “ทรัมป์” - “แฮร์ริส” ทำศก.โลกชะลอตัว

เศรษฐกิจ
2 พ.ย. 67
16:24
1,997
Logo Thai PBS
โค้งสุดท้าย“เลือกตั้งสหรัฐฯ” นักวิชาการ ห่วงนโยบาย “ทรัมป์” - “แฮร์ริส” ทำศก.โลกชะลอตัว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักวิชาการไทย จับตาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ห่วงนโยบาย “ทรัมป์” - “แฮร์ริส” ทำเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบ ส่งออก-ท่องเที่ยวไทย แนะผู้ประกอบการบริหารต้นทุน-พัฒนาสินค้า

วันนี้ ( 2 พ.ย.2567) นาย ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 พ.ย.2567 ระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันและ นางกามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ว่า คะแนนนิยมของทั้งสองคน สูสีกันมาก เมื่อวิเคราะห์การเลือกตั้งลงไปยังรัฐต่างๆจะเห็นว่า ในช่วงแรกผลโพลของ แฮร์ริส มีคะแนนนิยมที่มากกว่าทรัมป์ ค่อนข้างมาก จึงทำให้ภาพการเป็นประธานาธิบดีของแฮร์ริส ค่อนข้างสดใส

นาย ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นาย ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นาย ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

แต่ในระยะหลังสังเกตว่าทรัมป์ จะมีคะแนนนิยมสูสีกัน แต่ในรัฐที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครแน่นอนปรากฏว่า คะแนนนิยมของ ทรัมป์ สูงกว่าแฮร์ริส ในหลายมลรัฐ

ขณะเดียวกัน สำนักวิจัยได้จำลองภาพของผลการเลือกตั้ง พบว่าโอกาสที่ทรัมป์ จะชนะ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯในครั้งนี้จะสูงกว่า สังเกตได้จากทิศทางตลาดหลักทรัพย์ที่ดูนิ่งและทุกคนจะมองว่า หากทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีฯ เศรษฐกิจโลกอาจขยายตัวต่ำกว่าที่แฮร์ริส เข้ามาบริหารประเทศ

โดยมีสาเหตุมาจาก ทรัมป์ มีมาตรการชัดเจนที่จะกีดกันทางการค้าจากจีนที่จะขึ้นกำแพงภาษี 60% จากจีน และขึ้นกำแพงภาษีจากทุกประเทศ 10% รวมถึงอาจมีการเก็บภาษีสินค้าบางอย่างจากไต้หวัน และหากไต้หวันต้องการการคุ้มครองจะต้องจ่ายเงินให้กับสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ จะมีนโยบายการกีดกันไม่ให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานแบบผิดกฏหมาย และมีนโยบายส่งกลับแรงงานเหล่านั้น ซึ่งถือเป็นต้นทุนในการนำเข้าสินค้า ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทำให้หลายคนมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และอาจมีการเติบโตน้อยลง จากต้นทุนและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ลดได้น้อยลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จึงทำให้เศรษฐกิจสหรัฐหรือเศรษฐกิจโลก อาจขยายตัวต่ำกว่าที่ แฮร์ริส เข้ามาเป็นประธานาธิบดี
นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

ขณะที่ นโยบายของ แฮร์ริส ไม่ได้เน้นการขึ้นกำแพงภาษีแต่จะเน้นการเติมอำนาจซื้อให้กับภาคประชาชน โดยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หลายคนมองว่า หาก แฮร์ริส ได้เป็นประธานาธิบดี เศรษฐกิจน่าจะมีเติบโตดีกว่าทรัมป์

นาย ธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ผู้สมัครทั้ง 2 คนจะทำเหมือนกัน คือ การกีดกันทางการค้ากับจีน แบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน แยกจีนและรัสเซียออกจากโลกตะวันตก ซึ่งหาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง จะส่งมีผลในเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมากกว่าแฮร์ริส

หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ทำให้ส่งออกสินค้าได้น้อยลง และไทยอาจถูกกีดกันทางการค้าจากสหรัฐมากขึ้น รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวอาจไม่โดดเด่น

อย่างไรก็ตามใน เศรษฐกิจประเทศชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรป มีสัญญาณการชะลอตัวลง รวมถึงปัญหาสงครามที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ ผู้ประกอบการควรบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิต รวมถึงพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพตามความต้องการของผู้บริโภค มองหาตลาดใหม่ๆเพิ่มขึ้น และป้องกันความเสี่ยงค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าในระยะยาวอีกด้วย

อ่านข่าว:

จับตาเลือกตั้งสหรัฐสัปดาห์หน้า หนุน“ทองคำ”ฟื้นตัว

เลือกตั้งสหรัฐฯ "ทรัมป์-แฮร์ริส" 5 พ.ย.ใครชนะการค้าโลกอ่วม ?

CIMBT ชี้ "ทรัมป์" ชนะเลือกตั้ง เทรดวอร์ "สหรัฐ-จีน" ระอุอีกรอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง