กระแสร้อนในโลกออนไลน์ ป้ายข้อความ 3 ภาษา ที่ผู้ใช้แอปพลิเคชัน X ชาวญี่ปุ่นโพสต์ โดยคาดว่าเป็นหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น
บรรทัดแรกและบรรทัดที่ 2 เขียนเป็นภาษาอังกฤษและจีน มีใจความว่า "ไม่มีที่นั่งว่าง" ส่วนบรรทัดสุดท้าย เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น ใจความว่า "สำหรับท่านที่อ่านภาษาญี่ปุ่นประโยคนี้ออก เชิญเข้าร้าน" โพสต์นี้ถูกวิจารณ์ในวงกว้างและถูกตั้งคำถามว่าเลือกปฏิบัติหรือไม่
เจ้าของโพสต์ ได้มารีโพสต์ตัวเองพร้อมเพิ่มข้อความว่า ส่วนตัวคิดว่า ร้านมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคนที่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แต่ได้ตั้งคำถามถึงวิธีการปฏิเสธที่เหมาะสม โพสต์นี้มียอดผู้เข้าชมแล้วกว่า 19 ล้านวิว
คนไทยก็ได้เห็นโพสต์นี้เช่นกัน และกลายมาเป็นดราม่า เมื่อมีคนโพสต์ภาพป้ายสถานที่ท่องเที่ยวในไทย ที่เขียนภาษาไทยว่าคนไทยเข้าฟรี แต่ภาษาอังกฤษและจีนกลับเขียนว่าให้ไปซื้อตั๋ว
บรรยากาศการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
หลายคนมองว่า เรื่องนี้นำไปเทียบกันไม่ได้ เพราะกรณีที่ญี่ปุ่นเป็นร้านอาหาร แต่กรณีของไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้ภาษีประชาชนดูแล ที่ต่างประเทศก็ใช้วิธีเก็บเงินแบบนี้กับนักท่องเที่ยว เช่นกัน บ้างมองว่า ถึงจะติดป้ายแบบนี้แต่ก็ยังใช้แอปแปลภาษาในโทรศัพท์แปลได้อยู่ดี
ล่าสุดเพจ "ฉันชมภาพยนตร์ของสหมงคลฟิล์มแบบวนซ้ำ" ได้โพสต์ภาพนี้ พร้อมระบุว่า "ควรเปลี่ยนป้ายเป็นแบบนี้ เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวหัวหมอ แอบใช้แอปแปลภาษา พอแปลแล้วเดินเข้าไปเลย"
จากภาพ เผยให้เห็นแผ่นป้าย 3 ภาษา แต่ภาพล่าง มีการแก้ไขข้อความ เปลี่ยนจากคำว่า "คนไทยเข้าฟรี" เป็น "คนทรีเข้าไฟ" แทน ซึ่งเป็นคำผวน ป้องกันนักท่องเที่ยวแอบเนียนใช้แอปฯ แปลภาษา
ญี่ปุ่นเผชิญปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง
ก่อนหน้านี้ นิเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่นเริ่มล้นเมือง ทำให้ชาวญี่ปุ่นเจอกับภาวะที่ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" ทั้งจากค่าเงินเยนที่อ่อนลง รวมถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางกว่า 70 ประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามา บางพื้นที่ จึงต้องออกมาตรการเข้ม เช่น เก็บเงินนักปีนภูเขาไฟฟูจิ คนละ 2,000 เยน หรือราว ๆ 460 บาท และจำกัดจำนวนนักปีนเขาเพื่อรักษาสภาพภูเขาไฟฟูจิ
ด้านสำนักข่าวเอพี เคยรายงานว่า บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในญี่ปุ่น เริ่มใช้ระบบ "สองราคา" เช่น ค่าธรรมเนียมการเข้าชมปราสาทฮิเมจิ ซึ่งจะเก็บชาวต่างชาติ 30 ดอลลาร์สหรัฐ และ 5 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับชาวญี่ปุ่น
และยังมีกรณีร้านอาหารทะเลบุฟเฟ่ต์ ในย่านชิบุยะ ที่ตั้งราคา 2 เรต เช่น มื้อกลางวันจะอยู่ที่ 5,478 เยนสำหรับคนญี่ปุ่น และ 6,578 เยนสำหรับชาวต่างชาติ ทางร้านเคยชี้แจงว่า เป็นเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม เพราะชาวต่างชาติบางคนไม่ทราบวิธีกินหรือวัตถุดิบเท่าคนญี่ปุ่นทำให้ต้องอธิบายและคอยสังเกตอยู่ตลอด จึงมีต้นทุนเวลาในการบริการลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น