วันนี้ (24 ต.ค.2567) นายสุณัย ผาสุข ผู้แทน Human Rights Watch Asia ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่ คดีตากใบกำลังจะหมดอายุความ ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยระบุว่า ที่้ผ่านมาแม้ว่าจะมีการเยียวยาครอบครัวและผู้เสียหายจากคดีตากใบ แต่ย้ำว่า การเยียวยาทางการเงิน หรือ มาตรการอื่น ๆ เหล่านั้นยังไม่ใช่ความยุติธรรม
อ่านข่าว : วัฏจักร "ปล้นปืน" ขวางกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ผู้ที่ได้รับเงินเยียวยานั้นเป็นผู้ที่ถูกกระทำ โดยรัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลืออำนวยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายให้ได้รับการเยียวยา โดนกระบวนการยุติธรรมจะต้องเดินหน้าคู่ขนานกันไป เมื่อครั้งที่มีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีตากใบ ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์ที่จะใช้ช่องทางอื่นใดในการเรียกร้องตามกระบวนการยุติธรรม
ขณะนี้ คดีดังกล่าวกำลังจะหมดอายุความ ในเวลา24.00 น.ของวันที่ 25 ต.ค. นี้ หาก ณ เวลานั้นยังไม่สามารถตามตัวจำเลยและผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คนมาเข้าสู่ศาลได้ คดีก็จะหมดอายุความไม่สามารถทำอะไรได้
นายสุณัย ยังกล่าวว่า ขอยืมคำพูด พ.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมที่ว่า คงต้องพึ่งปาฏิหาริย์ ซึ่งปาฏิหาริย์นี้ไม่ใช่การไปจับตัวมาดำเนินคดีได้ แต่คิดว่าปาฏิหาริย์ คือ เกิดแรงดลใจให้รัฐบาลเรียกประชุม ครม.ฉุกเฉิน โดยออก พ.ร.ก.ขยายอายุความให้ และหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม ที่มาจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลที่บอกว่าไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องตากใบ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปพิจารณาช่องทางในการขยายอายุความ
ขณะนี้มีช่องทางเดียวคือ รีบออกพระราชกำหนดให้ขยายอายุความ แต่ไม่ใช่เพียงคดีตากใบเท่านั้น แต่ขยายไปถึงคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกระทำจะไม่หมดอายุความ 20 ปี อีกต่อไป นี่จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานได้
นายสุณัย ยังกล่าวกว่า กรณีจำเลยที่ 1 เดินทางไปประเทศอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะประเทศอังกฤษไม่มีข้อกำหนดส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษที่รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต เพราะคดีตากใบมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งต่อให้จับตัวได้ก็จะเข้าสู่การไต่สวนชี้แจงกับทางการอังกฤษว่าจะดำเนินถึงขั้นประหารชีวิตหรือไม่ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน
ตอนนี้มีความหวังเดียวคือ เกิดปาฏิหาริย์เดียวทำให้ออก พ.ร.ก.ขยายอายุความให้ได้
ขณะที่ยังมีหลักฐานเชิงประจักษ์จากใบลาป่วยที่จำเลยที่ 1 ก็ยื่นต่อสภาฯ ก็พบว่ายื่นขอลาไปจนถึงวันวันที่ 30 ต.ค.ซึ่งคดีหมดอายุความไปแล้ว รวมถึงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปชี้แจงต่อวุฒิสภาที่แจ้งว่า ได้ติดตามผู้ต้องหาคนอื่น ๆ แล้วแต่ไม่เจอตัว ก็ไม่พบตัวและพบข้อมูลว่า จำเลยอยู่ต่างประเทศ 3 คน คือ ประเทศอังกฤษ 1 คน ลาว 1 คน และญี่ปุ่น 1 คน ขณะที่การขอความร่วมมือจากตำรวจสากลก็ยังไม่เห็นว่าทางการได้แจ้งไปยังตำรวจสากลไปแล้วหรือไม่
ขณะที่จากการได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายบอกว่า เมื่อฟ้องศาลประทับรับฟ้องและอัยการสั่งฟ้อง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านสามารถเรียกร้องผู้ที่กระทำผิดต่อเขาได้ และตอนนี้ความหวังกำลังจะทำให้ดับลง
ผู้แทน Human Rights Watch Asia กล่าวว่า จากนี้ไปเจ้าหน้าที่รัฐจะใช้วิธีหนีคดีจนหมดอายุความแล้วกลับมาอยู่ในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของไทยแย่ลง เพราะการละเมิดสิทธิโดยรัฐต่อประชาชนเมื่อทำไปแล้วไม่ต้องกลัวถูกลงโทษ
สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ว่าจะเป็นคดีตากใบเท่านั้น ในคดีทางการเมืองก่อนหน้านี้ก็เช่นกันทั้ง กรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) , คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.), ม็อบ 3 นิ้ว ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความรุนแรงทั้งสิ้น ซึ่งกรณีตากใบ จะมาย้ำวัฒนธรรมการทำผิดแล้วลอยนวลที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยจะฝังรากลึกโดยถอนไม่ได้ โดยสิ่งเหล่านี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก
อ่านข่าว : ระเบิดใกล้ที่ว่าการอำเภอ-สภ.ปะนาเระ อาคารเสียหาย ไม่มีคนเจ็บ
20 ปี ตากใบบาดแผลรอวันเยียวยา บนเส้นทางสันติภาพชายแดนใต้
20 ปี "คดีตากใบ" เงื่อนไขไฟใต้ครั้งใหม่