ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ถอนใบอนุญาต "ดิไอคอน" อาจไม่ทันสัปดาห์นี้ "จิราพร" ยันไร้ธงกลั่นแกล้งใคร

การเมือง
23 ต.ค. 67
10:12
102
Logo Thai PBS
ถอนใบอนุญาต "ดิไอคอน" อาจไม่ทันสัปดาห์นี้ "จิราพร" ยันไร้ธงกลั่นแกล้งใคร
"จิราพร" รับถอนใบอนุญาต "ดิไอคอนกรุ๊ป" อาจไม่ทันในสัปดาห์นี้ บอกต้องทำให้รอบคอบ ยันไม่มีธงกลั่นแกล้งใคร ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

วันนี้ (23 ต.ค.2567) น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นความคืบหน้าการตรวจสอบบุคคลใน สคบ.ที่เกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป จะสร้างความเชื่อมั่นและกำกับดูแลเรื่องนี้อย่างไร ว่า ปัญหานี้สะสมมาหลายปี และเพิ่งจะปะทุจึงทำให้ประชาชนตั้งคำถามการทำงานของ สคบ.

ตั้งแต่เกิดเรื่องปี 2561 มีการมาร้องเรียนที่ สคบ. ซึ่งเมื่อตรวจย้อนกลับไปก็ไม่ได้นิ่งนอนใจมีการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย สคบ. มีข้อกฎหมายที่จำกัดในการตรวจสอบ และจากปี 2561 มาถึงปัจจุบันมีการตอบกลับมาแค่บางหน่วยงาน ซึ่งอาจจะดูเพียงแค่ สคบ. ไม่ได้ ต้องดูมิติการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่ามีการเชื่อมโยงกันทั้งการบูรณาการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการป้องกันระยะยาว และอีกส่วนที่ต้องเรียกความเชื่อมั่นคืน คือ คลิปเสียงที่ปรากฏในคลิปสื่อ ซึ่งอยากให้ประชาชนมั่นใจในรัฐบาล เพราะเราเอาจริงในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงจึงเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการที่ไม่ใช่คนใน สคบ. เข้ามาตรวจสอบกันเอง

ซึ่งคณะกรรมการคณะนี้ไม่ได้ดูเพียงแค่ข้อเท็จจริงแต่ยังจะหามาตรการและวิธีการในเชิงนโยบายให้คำแนะนำให้ สคบ. ไปดำเนินการต่อ ซึ่งกฎหมายที่ สคบ. ถืออยู่จะล้าหลังหรือล้าสมัยคณะกรรมการนี้จะช่วยให้คำแนะนำเพื่อแก้ปัญหานี้ด้วยรวมถึงการทำงานจะต้องมีการรื้อครั้งใหญ่เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้นเพื่อให้องค์กรโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตามคนที่ตั้งใจทำงานเป็นข้าราชการน้ำดีก็มีแต่ส่วนไหนที่เป็นปัญหาเราต้องแก้ไขและให้ความเชื่อมั่นกับประชาชน

ทั้งนี้คณะกรรมการชุดใหญ่ที่ตั้งขึ้นมา ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกสองชุดซึ่งหนึ่งชุดจะดูการสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งจะนำพยานหลักฐานพยานวัตถุและพยานบุคคลมาเชื่อมโยงกันซึ่งการประชุมนัดแรกต้องหาข้อมูลองค์ประกอบแวดล้อมทั้งหมดเพื่อรายงานกับคณะกรรมการชุดใหญ่และจะได้กำหนดว่าจะต้องเชิญบุคคลหรือหน่วยงานไหนเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนอนุกรรมการอีกคณะหนึ่งจะดูเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ สคบ. ซึ่งเมื่ออนุกรรมการทำงานครบ 1 สัปดาห์ก็จะมีการรายงานให้คณะกรรมการชุดใหญ่ได้รับรับทราบ

เมื่อถามถึงการพิจารณาถอนใบอนุญาตบริษัทดังกล่าว โดยทนายความบอสพอลได้มีการระบุว่าหากมีการถอนจะฟ้องร้องกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพราะถือว่ายังให้ข้อมูลไม่แล้วเสร็จนั้น น.ส.จิราพร กล่าวว่า สั่งการ สคบ. ให้ทำงานให้เร็วที่สุดซึ่งที่เคยให้ข้อมูลไปว่าอยู่ระหว่างการเชิญบริษัทมาให้ข้อมูล ทั้งตัวบอสดารา แต่ในระหว่างการสอบสวนได้มีการจับกุม และขณะนี้กลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้วฉะนั้นเป็นขั้นตอนที่ สคบ. ต้องเข้าไปร่วมงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอบสวนข้อมูลนำมาประกอบการพิจารณาในการเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป

น.ส.จิราพรยืนยันว่าจะทำทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมายและทำการสอบสวนเพื่อดูแนวทางว่าจะสามารถหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมมาประกอบอย่างไรได้บ้าง ส่วนจะสามารถเพิกถอนใบอนุญาตภายในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่นั้น ก็อาจจะไม่ทัน เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องทำอย่างรอบคอบ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เราไม่ได้มีธงที่จะกลั่นแกล้งใครแต่ต้องการที่จะทำตามข้อมูลข้อเท็จจริงตามหลักฐานเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีคนการเมืองที่ถูกระบุในคลิปเสียงเรามีสิทธิ์ที่จะเรียกมาชี้แจง น.ส.จิราพร ระบุว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบมีสิทธิ์เชิญมาชี้แจงได้ทั้งหมด ส่วนจะมีนักการเมืองสามารถสั่งการ สคบ. ได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องรอดูข้อเท็จจริงเพราะคณะกรรมการชุดนี้มีการตั้งขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริงในส่วนนี้ให้เกิดความกระจ่าง ส่วนการดำเนินดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่นั้น หลังจากที่มีคลิปเสียงปรากฏบนสื่อในวันที่ 10 ต.ค.หลังจากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการคนนอกขึ้นมาในวันที่ 16 ต.ค. ซึ่งดำเนินไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งถือว่าไม่ได้ล่าช้าและพยายามทำอย่างดีที่สุดและทำอย่างรอบคอบ

อ่านข่าว :

DSI ค้นห้องเช่า "บอสพอล" ซุกนาฬิกาหรู-สร้อยทอง-ของแบรนด์เนม

ยึดอีก 5 คันรถหรูของกลาง "คดีดิไอคอน" สะสม 35 คัน

ราชทัณฑ์ปัด "กันต์" ขอพบแพทย์กลางดึก อยู่ระหว่างปรับตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง