วันนี้ (22 ต.ค.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ระดับ 2,740 ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ UBS คาดว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการคาดการณ์
เฟดเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตามเงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อเนื่อง และ Bond Yield พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำได้ปิดตลาดลบเล็กน้อย ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย
วิเคราะห์ราคาทองแม้ราคาทองคำยังคงทำ High ต่อเนื่อง โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high แต่รูปแบบแท่งเทียนของเมื่อวานนี้เป็นลักษณะ Gravestone Doji จึงอาจเริ่มมีการกลับตัวลงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงกลางวันนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแคบ และชะลอการปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำแท่ง 96.5% แนวรับ : 43,000 และ 42,850 บาทแนวต้าน : 43,400 และ 43,500 บาทราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 43,000 บาท และทำ All-time high อีกครั้งที่ราคา 43,250 บาท จากราคาทองคำโลกที่ทำ All-time high และเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว โดยเงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ตามแรงซื้อดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำแท่งมีทิศทางปรับตัวขึ้น ยังคงแนะนำ Let Profit Run
สำหรับราคาทองเปิดตลาดเช้านี้ ไม่เปลี่ยนแปลง (บวก 50 บาทครั้งที่ 2)ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 43,300 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 43,200 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 43,800 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 42,417.68 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,730.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 33.53 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,906 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 11,313บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 22,125บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 43,750 บาท ภาพรวมราคาทองเดือน ต.ค. บวก 2,850 บาท ภาพรวมทั้งปีราคาทองขึ้นไปถึง 9,600 บาท สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการทำสติถิไว้ตั้งแต่ปี2554
อ่านข่าว:
“ทองคำ” ภาคบ่าย ดีดบวก 550 บาท ลุ้น “รูปพรรณ” ทะลุ 44,000