เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน หญิงชาวแม่ฮ่องสอน เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกสาว อายุ 13 ปี ถูกเพื่อนออกอุบายชักชวนไปขายของ แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกไปค้าประเวณี ที่ประเทศเมียนมา โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมากลางคืนวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ส่งข้อความมาบอกแม่ว่า จะฆ่าตัวตาย จึงรีบติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา หลังรับแจ้งนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา ได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงไทย–เมียนมา และรู้ตัวคนที่นำตัวเด็กไป จึงได้ติดต่อเพื่อขอตัวเด็กคืน แต่กลับมีการเรียกเงิน 50,000 บาท ก่อนจะมีการต่อรองจนเหลือ 8,000 บาท โดยทางมูลนิธิฯ ได้ออกเงินจำนวนดังกล่าวให้ เพื่อไถ่ตัวเด็กกลับมา
จากนั้นมีคนเมียนมาพานั่งเรือข้ามกลับมาฝั่งไทย โดยเส้นทางธรรมชาติ หลังจากแม่รับตัวลูกสาวแล้ว ทั้ง 2 คนได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณา ทันที
เด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าว่า รู้จักกับเพื่อนรุ่นพี่ที่อาศัยอยู่ตำบลใกล้เคียงกัน และได้มีการพูดคุยกันผ่านเฟชบุ๊ก ชักชวนไปทำงานขายของ โดยเพื่อนรุ่นพี่มารับตนเองออกจากบ้านโดยที่ผู้ปกครองไม่ทราบ ไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
จากนั้นมีผู้ชายคนไทยพาตนเอง และเพื่อนรุ่นพี่ไปส่งให้กับผู้ชายชาวเมียนมาที่บริเวณตลาดริมเมย และข้ามฝั่งไปที่ประเทศเมียนมา พอไปถึงจึงรู้ตัวว่า ถูกหลอกให้มาค้าประเวณี จึงพยายามติดต่อให้แม่มารับ
อยากที่จะเตือนภัยประชาชน และพ่อแม่ว่ามีกระบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติทั้งเมียนมา บาร์เรน ดูไบ ใครที่อยากเดินทางไปขอให้ไตร่ตรองให้ดี และกวดขันให้รู้ว่ากรณีแบบนี้หากเกิดขึ้นแล้ว อาจจะช่วยไม่ได้ทันทุกครั้ง
นางปวีณา ยังบอกอีกว่า ได้ประสาน พล.ต.ตรี ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นธุระจัดหา และผู้ที่เป็นนายหน้า โดยในวันนี้( 22 ต.ค.) ได้มอบหมายให้นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ นำแม่เด็ก และเด็กอายุ 13 ปี เข้าแจ้งความ ตำรวจ ปคม. และเร่งขยายผลช่วยเด็กที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
อ่านข่าว : “ถอดรหัส....แชร์ลูกโซ่” คำให้การของ “แม่ทีมระดับ wisdom dealer”
"ผบ.ตร." ประชุมคดี "ดิไอคอน" จับตาออกหมายจับเพิ่ม
ศธ.แจงไม่มีคำสั่งใหม่เรื่องการแต่งกายข้าราชการ