แต่ที่มาแรงแซงโค้ง คือ คำร้องของนักร้องเรียนที่ยื่นผ่านกกต. ระบุพฤติการณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร รวมทั้ง แกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่ไปร่วมประชุมกับนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรื่องเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน
ทำให้การเมืองมีเรื่องทำให้ร้อนฉ่าขึ้นอีก 1 เรื่อง เพิ่มเติมจากคดีตากใบที่จะครบอายุความ 20 ปี วันที่ 25 ต.ค. เรื่องการสอบกรณีนายทักษิณพักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยไม่ติดคุกจริงเลยแม้วันเดียว
เรื่อง พ.ร.ป.ประชามติ และเรื่องนิรโทษกรรม แม้จะเป็นเพียงรับรายงานกรรมาธิการสามัญ จะรับหรือไม่รับ ยังไม่ถึงร่างกฎหมายด้วยซ้ำ ก็ส่อเค้าพรรคร่วมรัฐบาลเสียงแตก เมื่อหลายพรรคไม่เอาด้วยกับกรณีพ่วง คดีมาตรา 112
ไม่เพียงเท่านั้น รายงานเรื่องนี้ เสนอโดยพรรคเพื่อไทย มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกมธ. หากไม่ผ่าน จะเกิดอะไรขึ้น เพราะเสนอโดยรัฐบาล
แม้คำร้องกล่าวหานายทักษิณ ชี้นำครอบงำพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล จะยังมีขั้นตอนกระบวนการอีกนาน ตั้งตั้งแต่ตั้งกรรมการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนพิจารณาสรุป ส่งให้กกต.ชุดใหญ่พิจารณา
หากเห็นว่ามีมูล แล้วต้องส่งต่อ กว่าจะถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีกระบวนการในอีกชั้นหนึ่ง ยังไม่นับระหว่างทาง อาจถูกดองเรื่องอีก
เร็วสุดจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1-2 ปี เว้นแต่จะมีเหตุการณ์อื่น หรือจับพลัดจับผลูคำร้องของนายธีรยุทธ ได้รับการพิจารณาคาดว่า จะใช้เวลาพิจารณาเร็วกว่ายื่นผ่านกกต. ที่ปฏิเสธไม่ได้ คือจะมีปรากฏข่าวเรื่องนี้เป็นระยะ ๆ พร้อมมุมมองบทวิเคราะห์จากกูรูการเมือง จะส่งแรงกดดันไปถึงการทำงานของรัฐบาลอย่างเลี่ยงไม่พ้น
แม้แกนนำพรรคเพื่อไทย จะไม่แสดงท่าทีวิตกกังวลกับคำร้องนี้ และซัดกลับว่า เป็นผลพวงหรือผลไม้พิษจากการทำรัฐประหาร ทั้งปฏิเสธเรื่องชี้นำชัดเจน อีกถึงการยืนยันว่า ชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ แทนนายชัยเกษม นิติสิริ แต่เช้าวันรุ่งขึ้นพรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ
เท่ากับสะท้อนจุดยืนเป็นตัวของตนเอง มีความเป็นเป็นอิสระ จะกล่าวหานายทักษิณครอบงำได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายสำคัญของพรรค เป็นหัวหน้าทีมกฎหมาย รับมือเรื่องนี้
แต่ทางด้านฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม รวมทั้งกูรูด้านกฎหมายส่วนหนึ่ง กลับมองต่างมุมออกไป เพราะเป็นที่รับทราบและปรากฎบทบาทเรื่องนี้ของนายทักษิณ รวมทั้งจากการให้สัมภาษณ์สื่อ หรือแม้แต่การแสดงวิสัยทัศน์ ในงานดินเนอร์ทอล์ค ที่ได้กลายเป็นนโยบายของรัฐบาลในการแถลงต่อรัฐสภา ข้ออ้างเรื่องเปลี่ยนแปลงจากนายชัยเกษมเป็น น.ส.แพทองธาร จึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งจากภาพรวมเท่านั้น ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ต่างก็เห็นชอบตาม
หากคดีมีมูล เดินหน้าไปต่อตามกระบวนการถึงปลายทางสุดท้าย ตามคำร้องเข้าข่ายขัดมาตรา 28 และ มาตรา 29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ห้ามมิให้คนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ควบคุมครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยพรรคเพื่อไทย กับ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยินยอม ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งยุบพรรค ตามมาตรา 92 (3) ได้
เท่ากับทุกพรรคฝ่ายรัฐบาลที่มีแคนดิเดตนายกฯ และมี สส.ไม่น้อยกว่า 25 คน เมื่อถูกศาลสั่งยุบพรรค จะไม่มีแคนดิเดต นายกฯเหลืออยู่เลย ทั้งพรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ จะเหลือเพียง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคประชาธิปัตย์เพียงคนเดียว เพราะ ปชป.เพิ่งจะเข้าร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร จึงไม่มีชื่อใน 6 พรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกร้องให้ยุบ
ทางออกสำหรับการรับมือเรื่องดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล จึงเชื่อว่า คงไม่ปล่อยให้คดียืดเยื้อกระทั่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตัดสินคดีนี้ เพราะจะมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของ น.ส.แพทองธาร ด้วย จึงอาจได้เห็นการชิงประกาศยุบสภาโดยนายกฯแพทองธาร ก่อนศาลจะกำหนดวันพิจารณาตัดสิน
ทั้งนี้การประกาศยุบสภา เท่ากับทุกพรรคการเมืองกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ในสนามเลือกตั้ง วางตัวแคนดิเดตนายกฯ กันใหม่
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้เห็นการเดินหน้านโยบายแจกเงิน 1 หมื่นบาทบาท ในเฟสที่ 2 ช่วงต้นปีหน้า แน่นอน และได้เห็นการคิกออฟโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ : เน้นลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการ ของ น.ส.แพทองธาร เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต่อยอดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง รับไฮซีซั่นที่จะตามมา รวมทั้งอีกหลายโครงการตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
หากโครงการนำร่องเหล่านี้ได้ผล เหมือนกับแจกเงินหมื่นเฟสแรก ที่ทำให้คะแนนนิยมของนายกฯแพทองธาร ผ่านผลโพลพุ่งพรวด หากยังรักษาแนวโน้มคะแนนความนิยมต่อไปได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงปี 2570 ค่อยเลือกตั้งใหม่
ช่วงเวลาคะแนนนิยมพีคสุดขีด จึงน่าจะเป็น “คำตอบสุดท้าย” ได้ดีที่สุด
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : เชียงใหม่เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมหนักในรอบ 50 ปี
